ธอส.วางกรอบวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 6 ปี ปล่อยกู้ “โครงการบ้านประชารัฐ” เตรียมชงเข้าครม.ภายในเดือนนี้ หวังช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านเป็นของตัวเอง พร้อมขนทรัพย์ NPA ของแบงก์รัฐเข้าร่วมโครงการ ปี 2559 ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.6 แสนล้านบาท
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาอนุมัติโครงการบ้านประชารัฐภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้น2 สัปดาห์จะทำการเปิดรับลงทะเบียนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยจะเริ่มที่สำนักงานใหญ่ก่อน คาดว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมลงทะเบียนในช่วงแรกไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐจะเป็นการร่วมมือกันระหว่างธอส. กับกลุ่มธนาคารภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, กรมธนารักษ์, บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บบส.), บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) โดยจะมีการนำทรัพย์สินรอการขาย (NPA) เข้ามาร่วมโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ จะมีการสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ รวมไปถึงพื้นที่บางส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งจะมีจำนวนประมาณ 2,500 ยูนิต รวมทั้งยังมี NPA จากภาคเอกชนอีกราว 7-9 พันยูนิตที่จะเข้ามาร่วมในช่วงแรกด้วย โดยในส่วนของราคาที่อยู่อาศัยนั้นจะแบ่งเป็นห้องชุดราคาจะไม่เกิน 7 แสนบาทต่อยูนิต ส่วนทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 9 แสนบาทต่อยูนิต
ในส่วนคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการนั้น ธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อหาข้อสรุป โดยเบื้องต้นอาจจะกำหนดต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย หรือประมาณ 1.5-2 หมื่นบาทต่อเดือน รวมทั้งต้องไม่เคยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ใดมาก่อน
ทั้งนี้ ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 100% ของมูลค่าสินทรัพย์ โดยเตรียมมีกรอบวงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และธนาคารจะรับผิดชอบในส่วนของค่าโอนและจดจำนอง ซึ่งเฉลี่ยปีละประมาณ 270 ล้านบาท ส่วนของอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างพิจารณา แต่จะเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ แบบคงที่ประมาณ 5-6 ปี
ขณะที่ นางไลวรรณ ปองเสงี่ยม รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวถึงผลประกอบการของธนาคารในปี 2558 ว่า ที่ผ่านมาถือว่าทำได้ดีกว่าเป้าหมายเกือบทั้งหมด โดยธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1.57 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่1.49 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา ธอส.ปล่อยสินเชื่อเป็นวงเงินกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ ปี 2559 ธอส.ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 157,000 ล้านบาท โดยมีโครงการสำคัญคือ การทำข้อตกลงกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อพัฒนาแฟลตดินแดงของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท โครงการปล่อยสินเชื่อบ้านประชารัฐ 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงการปล่อยสินเชื่อสวัสดิการในอัตราดอกเบี้ย พิเศษให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ และองค์การ บริหารส่วนท้องถิ่น ขณะที่ธนาคารเตรียมแผนระดมเงินฝากจากรายย่อยให้มากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของยอดปล่อยสินเชื่อ
ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดสินเชื่อปล่อยใหม่ในปี2559 คาดว่าจะขยายตัว 4-5% จากปี 2558 โดยคาดว่าจะมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ในระบบอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 5.8-5.9 แสนล้านบาท ขณะที่สินเชื่อ คงค้างในระบบในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าระบบสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของไทยยังขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยคิดเป็น 20% ของจีดีพีของไทย