เซ็นจูรี่ 21 ระบุราคาที่ดินย่านพระราม 4 ทุบสถิติ 2 ล้านต่อตร.ว. “ศรีราชา” พุ่ง 3 เท่า เล็งขยายแฟรนไชส์ 20 สาขา ครึ่งปีหลัง รับแนวโน้มซื้อขาย-เช่าบ้านมือสองรุ่ง
นายกิตติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นจูรี่ 21 เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่การซื้อขายที่ดินยังคึกคักจากผู้ประกอบการ อสังหาฯ รายใหญ่ โดยมีที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวรถไฟฟ้าสายที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ที่ดินใจกลางเมือง ใจกลางธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่มีสิ่ง ปลูกสร้างอยู่แล้ว ทั้งอาคารพาณิชย์เก่า อาคารเก่า ที่เจ้าของที่ดินต้องการขาย คาดว่าที่ดินย่านพระรามสี่-ศาลาแดง จะทำสถิติราคาต่อตารางวา สูงสุดในกรุงเทพฯ สูงกว่าแปลงสุขุมวิท 24 ที่มีราคาซื้อขาย 2 ล้านบาทต่อตารางวา
นอกจากนี้ ที่ดินพื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม เช่น ศรีราชา ชลบุรี มีการเปลี่ยนมืออย่างคึกคัก จากการย้ายฐานการผลิตสู่ภาคตะวันออก เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ศรีราชา เป็นศูนย์กลางพำนักอาศัยของชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง และนิคมฯ โดยรอบ ทำให้ความต้องการ ที่อยู่อาศัยขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีนักลงทุนจากส่วนกลางและท้องถิ่นพัฒนาโครงการ ขณะเดียวกัน กลุ่มเจ้าของที่ดินต่างนำที่ดิน ที่ถือครองออกมาขายและพัฒนาที่พักอาศัย ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวใน 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังนี้ มีหลายปัจจัยลบส่งผลกระทบให้ตลาดชะลอตัว ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน สภาพคล่องในระบบการเงิน สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ปัญหาภัยแล้งกระทบรายได้เกษตรกร กำลังซื้อและเศรษฐกิจชะลอตัว
ปัจจุบันบริษัทได้บริหารการขายและ การตลาดให้ลูกค้ากว่า 20 โครงการ คาดในครึ่งปีหลัง จะทำยอดขายตามเป้าหมาย เพราะมีคอนโดเปิดตัวใหม่ และบริษัทเป็นผู้บริหารการขายและการตลาดอีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท
บริษัทมุ่งขยายแฟรนไชส์มากขึ้น ภายใต้ แบรนด์ “เซ็นจูรี่ 21″จากปัจจุบันมี 50 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 3 ราย ปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิดแฟรนไชส์ใหม่เพิ่มอีก 20 สาขา ทำให้สิ้นปี มีแฟรนไชส์รวมทั้งสิ้น 80 สาขา
“แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่มีผู้ที่สนใจเข้ามาปรึกษาเรื่องการดำเนินธุรกิจซื้อขายเช่า อสังหาฯ ในรูปแบบแฟรนไชส์ อย่างต่อเนื่อง”
จะเห็นได้จากการไปออกงาน สมาร์ท เอสเอ็มอี เอ็กซ์โป ที่เมืองทองธานี มีผู้ที่สนใจ 60 ราย เจรจาเป็นตัวแทนซื้อ-ขายอสังหาฯ และต้องการได้สิทธิแฟรนไชส์แบรนด์ตลาดบ้านมือสอง หรือ รีเซล ซึ่งตลาดรีเซลน่าจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ