ชี้ตลาดเป็นของ”ผู้ซื้อ”
สมาคมบ้านจัดสรร ชี้อสังหาฯ ซัพพลายล้น กดราคาขายปรับขึ้นน้อย กรุงเทพฯ ขยับ 5% ต่างจังหวัด คงราคาเดิม ชี้ตลาดเป็น ของผู้ซื้อ ด้านเมกะโปรเจคภาครัฐ “นิ่ง” ลดแรงกดดันความต้องการแรงงาน- ผู้รับเหมา ปีนี้
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า นายอิสระ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คาดว่าบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไม่มาก เฉลี่ย 5% ยกเว้นคอนโดย่านใจกลางเมือง แนวรถไฟฟ้า ปรับมากกว่า 5% ตามต้นทุนที่ดิน ส่วนคอนโดชานเมือง ราคาไม่ขยับเพิ่ม
เช่นเดียวกับตลาดต่างจังหวัด แม้จะมีกระแสการลงทุนโครงข่ายคมนาคมของ ภาครัฐ แต่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมี ซัพพลายเหลือขายอยู่จำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้
“ต้องรอให้ซัพพลายเดิมถูกดูดซับ ออกไปก่อน คาดว่าใช้เวลา 1-2 ปี จากการเร่งเปิดซัพพลายสู่ตลาดจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้นับเป็นปีทองของผู้ซื้อบ้าน”
ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า ตลาดพัทยา ขณะนี้อยู่ในภาวะ โอเวอร์ซัพพลาย เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา มีคอนโดเปิดใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ปีละกว่า 16,000 ยูนิต ปัจจุบันมีซัพพลายอยู่กว่า 30,000 ยูนิต โดยมียูนิตเหลือขาย 40% ส่วนคอนโด ชะอำ มีซัพพลาย 10,462 ยูนิต ขายแล้ว 8,018 ยูนิต หัวหิน ซัพพลาย 1,290 ยูนิต ขายแล้ว 887 ยูนิต สำหรับ ตลาดเชียงใหม่ โครงการเปิดขาย ปี 2557 จำนวน 317 โครงการ จำนวน 46,349 ยูนิต คงเหลือ 13,271 ยูนิต
สำหรับ ปัจจัยทางด้าน “ต้นทุน” ใน การพัฒนาโครงการโดยรวมปีนี้คาดอยู่ ในระดับทรงตัว เนื่องจากโครงการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมของภาครัฐ ยังไม่เริ่ม ก่อสร้างในปีนี้ ต้องรอเปิดประมูลงาน และจัดหาผู้รับเหมา คาดใช้เวลาไม่น้อยกว่า 8-10 เดือน ดังนั้นความต้องการใช้วัสดุ ก่อสร้าง ผู้รับเหมา และแรงงาน จึงไม่เพิ่มขึ้นทันทีในปีนี้
ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลดลง ส่งผลทางอ้อมด้านค่าขนส่ง ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างไม่ปรับตัวสูงขึ้น พบว่าราคาปูนซีเมนต์ และเหล็ก ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด
หากย้อนหลังในช่วงปี 2555-2556 พบว่าปัจจัยทางด้านต้นทุนการพัฒนา โครงการจะมีแรงกดดันสูงมาก เพราะ หลังเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ส่งผลต้นทุน ด้านการก่อสร้าง ราคาที่ดิน และค่าใช้จ่าย การพัฒนาที่ดิน ถมดิน และถมทราย สูงขึ้นทั้งหมด
อีกทั้งยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และผู้รับเหมา ทำให้ราคาบ้านช่วงนั้นมีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตเมือง ประเภทโครงการคอนโด ปรับขึ้นแรง จากราคาขายตารางเมตรละ 1 แสนบาท เพิ่มเป็น 2 แสนบาทต่อตารางเมตร
“ในปี 2557 ต้นทุนการพัฒนาโดยรวมค่อนข้างทรงตัว มีแต่ราคาที่ดินยังปรับสูงขึ้น แต่ไม่หวือหวามาก เพราะผู้ประกอบการ ชะลอเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 20% ส่วนปีนี้ แม้แรงกดดันด้านต้นทุนการพัฒนาจะน้อย แต่ในปี 2559 น่าห่วง เพราะเป็นช่วงที่โครงข่ายคมนาคมพื้นฐานภาครัฐเริ่มดำเนินโครงการ ทำให้ต้นทุนการพัฒนามีแรงกดดันสูง ทั้งผู้รับเหมา แรงงาน วัสดุก่อสร้าง ปรับขึ้นสูง”
อย่างไรก็ดี ปีนี้ ผู้ประกอบการยังต้องระมัดระวังและรอบคอบในการพัฒนาโครงการ เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งเรื่องของภาวะเศรษฐกิจและการเมืองว่าจะมีเสถียรภาพหรือมี ความขัดแย้งอีกหรือไม่
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ