“ออลไทยแท็กซี่” ทุ่ม 420 ล้าน เหมาซื้อ 520 คันรถโตโยต้ารุ่น “อัลติส-คัมรี่” เจาะลูกค้า VIP อัพเกรดบริการติดไวไฟ ฟรีน้ำดื่ม เริ่ม มิ.ย.นี้ ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม บุกต่างจังหวัด ประเดิมอุบลฯจังหวัดแรก ตั้งเป้าปีนี้ผู้โดยสารเพิ่มเท่าตัวเป็น 16,000 เที่ยว
นายสุเทพ บุญงอก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด ผู้ให้บริการ “ออลไทยแท็กซี่” ธุรกิจในเครือนครชัยแอร์ เปิดเผยว่า หลังจากเปิดบริการ “ออลไทยแท็กซี่” เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี ปัจจุบันมีรถให้บริการอยู่ที่ 430 คัน สามารถรับผู้โดยสารใช้ได้เฉลี่ยวันละ 20 ครั้ง โดยรถ 1 คัน มีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,500 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้เฉลี่ยวันละ 1,000 กว่าบาท คาดว่าจะทำให้รายได้บริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% จากปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 270 ล้านบาท
“ธุรกิจแท็กซี่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ ออลไทยเปิดบริการมาเกือบ 2 ปี คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เสมอต้นทุนในปีที่ 3 และปีที่ 4 และมีกำไรอยู่ที่ 20%” นายสุเทพกล่าวและว่า
สำหรับแผนการดำเนินการในปีนี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุน 426-428 ล้านบาท เพื่อซื้อรถใหม่อีก 520 คัน แยกเป็นรถโตโยต้ารุ่นอัลติส จำนวน 500 คัน วงเงิน 400 ล้านบาท และรุ่นคัมรี่อีก 20 คัน วงเงิน 26-28 ล้านบาท เมื่อรวมกับรถเดิมมีอยู่ 430 คัน จะทำให้ปีนี้บริษัทจะมีรถแท็กซี่บริการลูกค้าประมาณ 1,000 คัน
“เรากับโตโยต้าเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน นับจากที่เราใช้รถแท็กซี่รุ่นพริอุส แต่ปัจจุบันไม่ได้ผลิตที่ประเทศไทย เราจึงซื้อรถรุ่นอัลติสแทน ซึ่งการบริการยังไม่ได้กำหนดแน่ชัด เนื่องจากจะต้องรับพนักงานขับรถเพิ่ม 500 คนเสร็จเรียบร้อยก่อนถึงจะให้บริการลูกค้าได้ ส่วนรถคัมรี่ 20 คัน เราจะนำมาเป็นรถแท็กซี่ VIP จะเริ่มให้บริการ มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย”
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ภายในตัวรถคัมรี่ VIP ภายในดีไซน์เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย มีบริการฟรีไวไฟ น้ำดื่ม หนังสือพิมพ์ ผ้าเย็น ที่ชาร์จแบตฯโทรศัพท์มือถือ จอทีวีให้ความบันเทิงในรถ เป็นต้น โดยยังคงราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ปกติเริ่มต้นที่ 35 บาท จากนั้นคิดตามระยะทาง แต่จะมีการเก็บค่าเรียกบริการเพิ่มจากรถแท็กซี่ออลไทยธรรมดา ซึ่งปัจจุบันคิดค่าบริการที่ 40 บาท เพิ่มเป็น 80 บาท โดยสามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นและคอลเซ็นเตอร์
นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับปรุงพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นใหม่ ให้สามารถเข้าถึงผู้โดยสารให้ได้มากขึ้น และสามารถประเมินคนขับรถได้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นเพิ่มขึ้น 20% จากยอดดาวน์โหลด 336,145 ครั้ง และเพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ภายในรถพัฒนาโปรแกรมจอทีวีหลังเบาะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ด้วยการแสดงภาพและข้อมูลของคนขับ สามารถตรวจสอบความถูกต้องกับบัตรประจำตัวคนขับรถ (บัตรเหลือง) และระบบ GPS Tracking ผู้ใช้บริการสามารถเช็กพิกัดและความเร็วรถขณะเดินทางผ่านจอทีวีหลังเบาะได้
นายสุเทพกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการปรับปรุงการบริการและเพิ่มจำนวนรถอีก 500 คัน จะทำให้จำนวนผู้โดยสารในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 16,000 เที่ยวต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 8,600 เที่ยวต่อปี ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดบริการออลไทยแท็กซี่ในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกที่จ.อุบลราชธานี จำนวน 7 คัน จากนั้นจะทยอยที่ขอนแก่น, อุดรธานี, ระยอง, เชียงใหม่, ชลบุรี และเชียงราย
“ส่วนใหญ่ต่างจังหวัดที่มีบริการออลไทยแท็กซี่ จะเป็นจังหวัดที่มีศูนย์บริการของนครชัยแอร์อยู่แล้ว เราตั้งเป้าจะเปิดบริการ 20 คันต่อจังหวัด เพื่อบริการผู้โดยสารที่ใช้บริการนครชัยแอร์ถึงบ้าน อีกทั้งยังร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ในการขนสินค้าอีกด้วย เพื่อเพิ่มรายได้”