นักเศรษฐศาสตร์คาดกำลังซื้อเดือนก.พ.-มี.ค.แผ่วจากมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายปลายปีและเทศกาลปีใหม่ประเมินเศรษฐกิจขยายตัวดีครึ่งปีหลัง 3 แรงขับเคลื่อนหลัก “ภาครัฐ-ส่งออก-ท่องเที่ยว” เกาะติดความเสี่ยงสหรัฐฯ “เฟดปรับดอกเบี้ย-นโยบายการค้าทรัมป์-ผลเลือกตั้งกลุ่มประเทศยูโรโซน
นายรชตพงศ์ สุขสงวน ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายวิจัยความเสี่ยงธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาสแรกปีนี้ ถ้าจัดลำดับความสำคัญปัจจัยขับเคลื่อนจีดีพียังมาจากการลงทุนภาครัฐ ภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ห่วงภาคการบริโภคและลงทุน เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม อาจจะชะลอตัว หลังหมดมาตรการกระตุ้นในช่วงปลายปีก่อน
ส่วนลงทุนเอกชนรอแรงกระตุ้นจากภาครัฐ หลังจากรัฐให้สิทธิพิเศษลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)ทั้งเรื่องลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17%และการขยายมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศออกไปอีก 1 ปี แต่ปรับยอดหักลดหย่อนรายจ่ายเหลือ 1.5 เท่าจากเดิม 2 เท่าโดยกระทรวงการคลังคาดหวังว่าจะมีผู้ประกอบการเร่งลงทุนเพิ่มราว 8,000 ล้านบาทรัฐยอมสูญเสียรายได้ภาษีนิติบุคคล 800 ล้านบาท
สำหรับกรุงไทยประเมินจีดีพีทั้งปีเติบโต 3.4% ส่งออกขยายตัว2.2% แม้กระทรวงพาณิชย์มองโอกาสโต 3.5% แต่กรุงไทยยังมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ
นายเชาวน์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ต้องติดตามการบริโภคครัวเรือนมีประเด็นเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 1% ซึ่งหมวดพลังงานที่ปรับเพิ่ม 8% อาจมีผลต่อกำลังซื้อครัวเรือนไทย ถ้าเติมน้ำมันต้นทุนจะเพิ่ม 8% จากปีก่อนแม้ค่าแรงจะปรับแต่ครัวเรือนมีภาระหนี้ต้องผ่อนอยู่แล้ว
ด้านการลงทุนขนาดใหญ่อยู่ในช่วงรอกติกาใหม่ของสหรัฐฯเช่นเดียวกับโครงการได้รับส่งเสริมการลงทุนบีโอไอ ยกเว้นการลงทุนที่เป็นโครงการต่อเนื่องที่ต้องทำอยู่แล้วหรือลงทุนเพื่อส่งออกไปCLMVเป็นตลาดหลักยังเดินหน้าได้ โดยไม่เกี่ยวกับสหรัฐฯ
“เป็นระยะเวลาทุกคนรอประเมินสถานการณ์ก่อนเดินหน้าซึ่งภาคส่งออกไทยอาจแกว่งบางเดือน ส่วนกำลังซื้อในประเทศคนใช้ไปเยอะมีหนี้และค่าครองชีพเพิ่มจะทยอยมีผลต่อการบริโภค และภาคธุรกิจใหญ่รอดูกติกาสหรัฐฯโดยไม่นับรวมยุโรปที่จะมีเลือกตั้งในหลายประเทศ จึงมองกิจกรรมและเศรษฐกิจดีในครึ่งหลังแต่ก่อนสิ้นมีนาคมนี้ เราจะปรับไส้ในคาดการณ์จีดีพีทั้งปี 3.3%เช่นปรับเพิ่มการลงทุนภาครัฐ-เอกชนและส่งออก”
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ( EIC)ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นซึ่งทุกคนเห็นข้อมูลเดียวกันปัจจัยพื้นฐานไทยยังแข็งแรงดี โดยเฉพาะภาคส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือนส่วนหนึ่งจากเศรษฐกิจจีนที่ไม่ชะลอและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยืนอยู่ได้ แต่ภาคส่งออกกุมภาพันธ์-มีนาคม มีโอกาสลดลงจากปัจจัยชั่วคราว ขณะที่ไทยพาณิชย์คาดทั้งปีส่งออกขยายตัวได้ 1.5%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ