การเปิดเออีซีเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและขยายโอกาสลงทุนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเช่นกัน
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
วางเป้าหมายเป็น “1 ใน 10″ผู้นำพัฒนาที่อยู่อาศัยของเอเชีย ที่มีรายได้แตะ 1 แสนล้านบาท ภายใน 4-6 ปี ข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่อันดับ 25 ขณะที่ผู้นำของเอเชีย คือ วั่นเค่อ(Vanker) จากจีน มีรายได้ 2 แสนล้านบาท ตามด้วย แคปปิตอล แลนด์ สิงคโปร์ และ DLF ประเทศอินเดีย
การค้าเสรีอาเซียน เปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ในไทย แม้ยัง “ไม่มากนัก” เพราะการลงทุนอสังหาฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย มีอุปสรรคด้านกฎหมายค่อนข้างมาก
“พฤกษาเป็นอสังหาฯ ไทยรายแรกที่ไปทำตลาดต่างประเทศ 4 ปีที่แล้ว ในอินเดีย นโยบายหลักของเราไม่รีบเร่ง ยืดหยุ่น เพราะเป็นการแสวงหาโอกาสระยะยาว”
การเข้าไปทำตลาดต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่อง “ง่าย” มีกฎระเบียบ ข้อกฎหมาย แตกต่างกันในแต่ละประเทศ เป็นอุปสรรคของผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ
“อสังหาฯเป็นธุรกิจต้องขออนุญาตเยอะมาก แต่ละประเทศ แต่ละเขต คนละเมือง ก็ไม่เหมือนกัน”
ปัญหาใหญ่ของการลงทุนในต่างประเทศ คือ กฎหมายยังไม่รองรับธุรกิจพัฒนาที่ดิน และมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ดินหลายฉบับ การถือครองที่ดิน ด้วยกฎระเบียบของกฎหมายที่มีมากและซับซ้อน ทำให้การขออนุญาตก่อสร้างแต่ละโครงการต้องใช้เวลานาน แต่ละโครงการต้องขอใบอนุญาตใหม่อยู่เสมอ “ราคาที่ดินยังแพงกว่าเมืองไทย” เช่น ฮานอย เวียดนาม ราคา 3 ปีที่แล้ว ตารางวาละ 1 ล้านบาท การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท “ยาก” ขนาดการลงทุน ขั้นต่ำแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ผู้ไปลงทุนต้องมีสายป่านยาว
วิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สนใจขยายตลาดอสังหาฯ ในซีแอลเอ็มวี เน้นหาพันธมิตรท้องถิ่นร่วมกันพัฒนาโครงการ
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดที่อยู่อาศัยของแต่ละประเทศ โดยสนใจลงทุนในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า ล้วนมีศักยภาพในการลงทุน เพราะมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
“แม้กำลังซื้ออาจไม่สูงนัก แต่เป็นตลาดน่าสนใจ มาเลเซีย ประชากรไม่มากเท่าอินโดฯ แต่กำลังซื้อค่อนข้างสูง เป็นโอกาสใหม่เช่นเดียวกับพม่าที่เพิ่งเปิดประเทศ”
อิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านเป็นโอกาสใหม่ของอสังหาฯ ไทย ซึ่งผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมรอบด้าน และศึกษาความพร้อมของตลาดเป้าหมาย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มีประชากรจำนวนมาก มีหลายเมืองที่เป็น “เมืองใหญ่” มีความพร้อมทั้งกำลังซื้อ และความต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง เป็นทำเลการลงทุนที่เป็นโอกาสที่ดีใน 1-2 ปีนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ