กูรูอสังหาฯ เผยเทรนด์สินค้ากลุ่มไฮเอนด์มุ่งงานขาย “ดีไซน์” จากต่างชาติเป็นหลักชี้ช่วยอัพราคาสูงกว่าคู่แข่ง 30% แถมสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต แสนสิริ แจงดีไซน์เครื่องมือสำคัญช่วยปิดการขาย เหตุเศรษฐีต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยํ้าราคาขายต่อพุ่ง
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 โดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์จะแข่งขันกันที่งานดีไซน์เป็นหลัก เพราะลูกค้าในกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน แต่ไม่มีความมั่นใจที่จะใช้จ่าย ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำก็คือ การนำเรื่องของงานดีไซน์มาเป็นตัวช่วยเร่งความต้องการ เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าที่พิเศษกว่าสินค้าทั่วไปในตลาด ด้วยเล็งเห็นว่าในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้านั่นเอง
ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมาที่ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มมีโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตรเพิ่มมากขึ้น แม้ว่ากำลังซื้อของคนไทยโดยส่วนใหญ่จะมีไม่มากหรือว่าไม่สูงพอที่จะซื้อคอนโดมิเนียมระดับนี้ก็ตาม แต่ผู้ประกอบการก็พยายามหาจุดขายหรือว่าจุดเด่นอื่นๆ มาสร้างความน่าสนใจกับผู้ซื้อไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับแบรนด์โรงแรมระดับ 4 – 5 ดาวโดยให้เข้ามาบริหารโครงการและส่วนกลางของโครงการรวมทั้งบริหารการเช่าหรือว่าดูแลการบริการต่างๆ ให้เหมือนกับโรงแรมระดับ 5 ดาว หวังเพิ่มมูลค่าให้เหมาะสมกับราคาขายที่สูงกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน
ตลอดจนเลือกใช้บริการของสถาปนิกหรือดีไซเนอร์ระดับโลกเพื่อออกแบบและตกแต่งโครงการรวมไปถึงการใช้บริการของนักออกแบบหรือว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกทำให้โครงการมีความน่าสนใจมากกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน เพราะดีไซเนอร์ระดับโลกเหล่านี้ไม่ได้ออกแบบโครงการจำนวนมากหรืออาจจะรับออกแบบโครงการไม่กี่โครงการในแต่ละประเทศความน่าสนใจจึงมีมากกว่าโครงการปกติทั่วไปทั้งนี้ โครงการในรูปแบบนี้ในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก อาจจะมีเพียงแค่ไม่กี่บริษัทที่พัฒนาโครงการในลักษณะนี้ทำให้ไม่มีคู่แข่ง แม้ว่าราคาขายจะสูงกว่าโครงการในทำเลเดียวกันก็ตาม
“ราคาขายของโครงการรูปแบบนี้จะสูงกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกันถึงกว่า30% นอกจากนี้โครงการในรูปแบบนี้ยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาในอนาคตอย่างที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้นว่านักออกแบบระดับโลกเหล่านี้อาจจะไม่รับงานออกแบบโครงการในทำเลหรือประเทศเดียวกันหรืออาจจะมีโครงการที่ออกแบบไม่กี่โครงการในโลกทำให้เมื่อเวลาผ่านไปราคาขายต่อหรืออัตราผลตอบแทนในอนาคตจึงมีความเป็นไปได้ที่จะสูงกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน แต่ต้องไม่ลืมว่าด้วยราคาตอนซื้อมานั้นสูงอยู่แล้วราคาขายต่อที่สูงขึ้นอาจจะทำให้กลุ่มผู้ซื้อที่มีความสามารถในการซื้อคอนโดมิเนียมราคาแพงนั้นมีไม่มาก”นายสุรเชษฐ กล่าว
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการ“KHUN by YOO inspired by Starck” (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) โดยเป็นความร่วมมือกับทีม คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์คบริษัทออกแบบระดับโลกผ่านนักออกแบบชื่อดัง ฟิลิปป์ สตาร์คซอยทองหล่อ 12 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 27 ชั้น จำนวน 148 หน่วย พื้นที่ตั้งแต่ 41.50 – 302.75 ตารางเมตร มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาทต่อหน่วย หรือราคาขายเฉลี่ย 3.6 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นราคาขายที่สูงที่สุดในทองหล่อ
“จากการวิจัยของบริษัท พบว่า โครงการที่ร่วมมือกับยู อินสไปร์ เมื่อขายต่อราคาจะปรับเพิ่มขึ้น 30% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี และทุกโครงการสามารถปิดการขายได้เร็ว โดยในรอบเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้วกว่า 60% แสดงให้เห็นว่าเรื่องของงานดีไซน์และนักออกแบบที่มีชื่อเสียงช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่ต้องการความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสินค้า”นายอุทัย กล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า โครงการที่มีการออกแบบหรือนำผลงานที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศจำนวนไม่มากซึ่งแต่ละโครงการมีราคาขายที่สูงกว่าโครงการอื่นๆในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่วันเปิดขายโครงการและราคามีการขยับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์ เลส) พัฒนาโดย บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จับมือ Ralph Lauren (ราล์ฟ ลอเรน) นักออกแบบระดับโลก ด้วยการนำผลงานออกแบบของดีไซน์คนนี้มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ส่วนกลาง ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2559 ด้วยราคาเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ 5.5 แสนบาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ที่ 5.7 แสนบาทต่อตารางเมตร , โครงการริทึ่ม สาธร พัฒนาโดย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีห้องพิเศษที่ออกแบบโดย นาโอโตะ ฟูกาซาว่า(Naoto Fukasawa)ดีไซเนอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่น เพียง 6 หน่วยเท่านั้นราคาปัจจุบัน สำหรับห้องขนาด 45 ตารางเมตร อยู่ที่ 6.4 ล้านบาท ขณะที่ห้องขนาดเดียวกัน ราคาอยู่ที่ 7.4 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ