ธนารักษ์ลุ้น ก.พ.นี้เคาะบ้านผู้มีรายได้น้อย คาดตอกเสาเข็มได้ในปีนี้ กำหนดราคาคอนโดฯ 5 แสนบาท บ้านเดี่ยว 7 แสนบาท เริ่ม 6 พื้นที่ในเขต กทม. เชียงใหม่ เชียงราย ชะอำ รวม 3,400 ยูนิต ยังกำหนดรายได้ไม่ลงตัว สศค.ชง 1.5 หมื่น ธอส.ต้องมีรายได้ 2.4 หมื่น
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แต่ยังไม่สามารถสรุปในเรื่องของรายได้ของประชาชนที่จะมาเช่าหรือซื้อบ้านว่าจะเป็นเท่าใด เนื่องจาก สศค.กำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 15,000 บาท/เดือน แต่ ธอส.อยากให้กำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 24,000 บาท/เดือน ขณะที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 22,000 บาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะได้ข้อสรุปหรือมีข้อยุติออกมา และภายในปีนี้จะสามารถตอกเสาเข็มโครงการแรกได้ และเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าอยู่อาศัยได้ในช่วงปี 2560
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า เบื้องต้นที่ราชพัสดุที่กรมเตรียมไว้มี 6 แปลง คาดว่าจะสามารถดำเนินโครงการเป็นแห่งแรกคือบริเวณซอยวัดไผ่ตัน ที่เหลือทยอยดำเนินการก่อสร้างคือ โรงกษาปณ์เก่า ย่านประดิพัทธ์ ที่ จ.เชียงใหม่ในเมืองพื้นที่ 9 ไร่ ชะอำ 2 แปลง และที่เชียงราย 1 แปลง คาดว่าจะสามารถก่อสร้างทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมได้ประมาณ 3,400 ยูนิต หากเป็นคอนโดฯ หรืออพาร์ตเมนต์ หรือแฟลต จะมีราคาอยู่ที่ 5 แสนบาท/ยูนิต ขนาดพื้นที่ 21-22 ตร.ม. น่าจะเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวราคา 7 แสนบาท/ยูนิต ขนาดพื้นที่ 70 ตร.ม. ส่วนใหญ่จะเป็นที่ต่างจังหวัด
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า รูปแบบของการดำเนินการเบื้องต้นจะมี 3 ลักษณะ คือ 1.เช่าใน
ราคาที่ถูกมากสำหรับผู้มีรายได้น้อย หากรายได้เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดต้องออกไป ขณะนี้กำลังศึกษารูปแบบการเช่าของฮ่องกง หรือของจีน เพื่อนำมาปรับใช้ในไทย 2.เช่าซื้อระยะยาว และ 3.ซื้อเป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์”ขณะนี้สิ่งที่กำลังต้องสรุปคือเกณฑ์รายได้ของผู้ที่จะเช่า หรือซื้อ รวมถึงหลักเกณฑ์ และแนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการ ซึ่งเรื่องนี้ สศค.กำลังพิจารณาอยู่ โดยในส่วนของเกณฑ์รายได้นั้นนอกจากกำหนดเป็นตัวเงินแล้วอาจจะกำหนดเป็นระดับขั้น (ซี) ของข้าราชการ ซึ่งกรมธนารักษ์พร้อมสนับสนุนพื้นที่ ธอส.พร้อมจะสนับสนุนเงินกู้ทั้งกับผู้ประกอบการอสังหาฯและกับประชาชนที่ต้องการเช่าซื้อ” นายจักรกฤศฏิ์กล่าว
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาที่มักกะสันว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุว่าสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ภายใน 2 ปี คาดว่า ร.ฟ.ท.จะส่งแผนมาที่กรมอย่างเป็นทางการในช่วงสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นมาประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อประเมินในเรื่องมูลค่าการเช่ากับหนี้ของ ร.ฟ.ท. 61,000 ล้านบาท