การรถไฟฯเตรียมตั้งคณะกรรมการศึกษาแผนพัฒนาที่ดิน กม.11 เพื่อความรอบคอบตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุน ผู้ว่าฯ ประเมิน ได้เปิดประมูลไตรมาส 3-4 ปี 2559
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณ กม.11 ถนนกำแพงเพชร ของ ร.ฟ.ท.จำนวน 359 ไร่ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทว่า ล่าสุด ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาแผนงานดังกล่าว เพื่อจัดทำ รายละเอียดการพัฒนาพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนนำส่งให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณา เนื่องจากแผนงานนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ของ ร.ฟ.ท.ที่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ซึ่งจะต้องมีการจัดคณะทำงานไปหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อความชัดเจนถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ร.ฟ.ท.คงต้องดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 ก่อน เนื่องจากทราบว่าขณะนี้ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 (ฉบับใหม่) ยังไม่ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่หากประกาศในภายหลัง ร.ฟ.ท.ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 ได้ทันที โดยปรับแผนการทำงานตามระเบียบบางข้อที่แตกต่างกับ พ.ร.บ. ร่วมทุนปี 2535 เช่น การเพิ่มมูลค่าโครงการจาก พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 ที่กำหนดให้โครงการที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ปรับขึ้นเป็นโครงการที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของเราก็ขอเวลาศึกษาให้รอบคอบก่อน โดยเฉพาะการที่เราต้องทำตาม พ.ร.บ. ร่วมทุน ซึ่งร.ฟ.ท. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ พร้อมส่งทีมไปหารือกับ สคร.ให้ชัดเจนว่าต้องทำแบบไหนอย่างไรให้ถูกต้อง และยืนยันว่าเราต้องเปิดประมูลแผนพัฒนาที่ดินนี้แน่นอน ไม่สามารถยกให้เอกชนรายใดรายหนึ่งได้ และประเมินว่าน่าจะเปิดประมูลได้ประมาณไตรมาส 3-4 ของปี 2559”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้มาเสนอแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณ กม.11 ถนนกำแพงเพชร ของ ร.ฟ.ท.ต่อกระทรวงคมนาคม โดยประเมินว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งการดำเนินงานเป็น 4 แผนงาน คือสร้างคอนโดมิเนียมจำนวน 5,000 ยูนิต สำหรับพนักงาน ร.ฟ.ท.อยู่อาศัยฟรี โดยแบ่งเป็น 2 ขนาด คือขนาด 42 ตารางเมตร และ 56 ตารางเมตร
จัดสรรพื้นที่ค้าขายให้กับผู้ค้ารายเดิม จัดสรรพื้นที่สวนสาธารณะ และจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ BTS หารายได้โดยคิดเป็น 60%-70% ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว (Mono Rail) เพื่อวิ่งบริการในพื้นที่กม. 11 กับพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จตุจักร บางซื่อด้วย