นายเมธี วินิชบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะได้ข้อสรุปการเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ 3-4 บริษัท มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ในปีนี้ ซึ่งเป็นลักษณะธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยจะเน้นในจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก มากกว่าใน กทม. โดยขณะนี้กำลังเจรจา คาดว่าขนาดธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทต่อแห่ง และอาจต้องใช้เงินกู้เพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (ดีอี) 0.7 เท่า และจะรักษาระดับไม่ให้เกิน 1.5 เท่า
“คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้ 4,000 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่มีรายได้แค่ 402.43 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้โครงการอสังหาริมทรัพย์เนอวานา ที่บริษัทถือหุ้น 51% คาดว่าจะเริ่มบันทึกกำไรในช่วงไตรมาส 3 มียอดรับรู้การโอนโครงการบริษัท รสา เดิม และรับรู้รายได้บริษัทซันทาวเวอร์ อาคารสำนักงานให้เช่าที่ซื้อกิจการเมื่อช่วงที่ผ่านมา มั่นใจว่าปีนี้จะพลิกมีกำไร จากปีก่อนขาดทุน 250 ล้านบาท”
ทั้งนี้ในปี 62 บริษัทมีแผนจัดตั้งกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีทส์) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท นำเงินที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต คาดว่ารายได้ในปี 62 จะสูงถึง 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริม ทรัพย์ 60% รายได้จากการให้เช่าและบริการ 40% โดยเตรียมประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติการลงทุนโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นโครงการผสมผสาน (มิกซ์ยูส) บนถนนอโศก เพชรบุรี มูลค่า 4,500 ล้านบาท หากอนุมัติ จะเริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค.นี้ แล้วเสร็จปี 61
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์