เอกชนขานรับแนวคิดกทม.ปรับผังเมืองใหม่ตลิ่งชัน-ภาษีเจริญ สอดรับโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเชื่อมบางหว้า-ตลิ่งชัน คอลลิเออร์ส ชี้อนาคตทำเลทองตลาดที่อยู่อาศัย ด้านกูรูอสังหาฯ
ฟันธงดันราคาที่ดินขยับขึ้นเท่าตัวทะลุ 1 แสนบาท/ตร.ว.แน่ พร้อมแนะสร้างโครงข่ายคมนาคมเสริมรองรับการเดินทางสู่รถไฟฟ้า
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตตลิ่งชัน และภาษีเจริญถูกกำหนดในผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับ พ.ศ. 2556 ว่าเป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม (เขตสีขาวมีกรอบและเส้นทแยงสีเขียว) ทำให้มีข้อกำหนดค่อนข้างมากต่อการพัฒนาที่ดิน เพราะไม่สามารถพัฒนาเป็นอาคารคอนโดมิเนียม ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือทาวน์เฮาส์ได้ โดยกฎหมายระบุให้โครงการบ้านจัดสรรต้องมีขนาดที่ดินหน่วยละไม่น้อยกว่า 100 ตร.ว. ทำให้โครงการบ้านจัดสรรใน 2 เขตนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นโครงการที่มีราคาแพง เนื่องจากราคาที่ดินในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากการสำรวจโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยรวม 2 เขตนี้แยกได้เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 1,008 หน่วย ขายได้ 55%ทาวน์เฮาส์ 749 หน่วย ขายได้ 42% อีกจำนวนประมาณ 70 หน่วย เป็นบ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ยังแยกได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาขายเริ่มต้นหน่วยละประมาณ 9.5 ล้านบาทไปจนถึงกว่า 50 ล้านบาท มีมากถึง 580 หน่วย มียอดขาย 55% ส่วนของทาวน์เฮาส์ระดับราคาขายมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปมีมากถึง 693 หน่วย มียอดขายประมาณ 45% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้เป็นย่านที่มีที่อยู่อาศัยราคาแพง
“ทั้งนี้ ในอนาคตเขตตลิ่งชันและภาษีเจริญ อาจจะมีโครงการทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดินต่ำกว่า 100 ตร.ว.เกิดขึ้น รวมทั้งคอนโดมิเนียมมีจำนวนมากกว่าในปัจจุบัน เพราะว่าทางกรุงเทพมหานครจะมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน ตามแนวถนนราชพฤกษ์ที่ขยายมาจากสถานีบางหว้าในปัจจุบัน ซึ่งในเขตตลิ่ง ชันยังมีสถานีปลายทางของเส้นทางรถไฟ ฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชันอีก ทำให้เขตตลิ่งชันต่อไปจะเป็นปลายทางของเส้น ทางรถไฟฟ้า 2 สาย ดังนั้นทางกรุงเทพ มหานครจึงมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนสีผัง เมืองของเขตตลิ่งชัน และภาษีเจริญบางส่วนให้สอดคล้องกับความเจริญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้า และพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางส่วนต่อขยายจากบางหว้ามาตลิ่งชัน แต่ต้องรอให้ผังเมืองปัจจุบันหมดอายุก่อนในปี 2561 ซึ่งถ้าสามารถเปลี่ยนสีผังเมืองให้สอดคล้องกับความเจริญในขณะนั้นได้จริง จะทำให้พื้นที่นี้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กลายเป็นทำเลทองแห่งอนาคตอีกแห่งที่น่าจับตามองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” นายสุรเชษฐ กล่าว
ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรม การผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า การปรับสีผังเมืองเพื่อให้สอดรับกับความเจริญหลังโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ตลิ่งชัน จะช่วยให้ราคาที่ดินขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อตร.ว.เป็นมากกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ว. เหมือนพื้นที่เพชรเกษมที่ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทต่อตร.ว. เนื่องจากมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรืออย่างแนวถนนราชพฤกษ์ที่มีราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5-2 แสนบาทต่อตร.ว.
“แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลังการปรับสีผังและการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า คือเรื่องของระบบโครงข่ายการคมนาคมต่างๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนในพื้นที่ได้เข้าถึงบริการรถไฟฟ้าอย่างแท้จริง เนื่องจากในปัจจุบันบางเส้นทางไม่มีแม้กระทั่งรถบริการสาธารณะในการขนส่ง” นายวสันต์ กล่าว
สอดคล้องกับ นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่ใช้เวลาในการเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางธุรกิจได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ยังขาดระบบโครงข่ายคมนาคมที่มาเชื่อมโยงสู่พื้นที่ต่างๆ ซึ่งถ้าจะให้พื้นที่หลังปรับสีผังเกิดประโยชน์สูงสุด ทางกรุงเทพมหานคร จำเป็นต้องสร้างระบบโครงข่ายเชื่อมโยงแบบครบวงจรหรือมีการเชื่อมโยงระบบขนส่งจากรถไฟฟ้าสายหนึ่งไปยังอีกสายหนึ่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ