“จักรมณฑ์” ลงพื้นที่จัดตั้ง เขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อดันยอดการค้าชายแดนเพิ่ม ด้านผู้ว่าการ การนิคมฯชี้เฉพาะหนองคายในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 20,000 ล้าน
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากรหนองคาย เนื่องในโอกาสไป ติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ว่า จังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการค้าชายแดนอย่างมาก ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าชายแดนถึง 60,000 ล้านบาท สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ซบเซาลงไปบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากมีระบบการคมนาคมขนส่งได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้นมากกว่านี้เช่น ระบบราง บวกกับผลจาก การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ก็จะช่วยให้มูลค่าการค้าชายแดน ผ่านด่านหนองคาย เพิ่มขึ้นเป็นระดับปีละ 100,000 ล้านบาท ได้ ทั้งนี้ไม่นับรวมที่ชาวลาวเข้ามาซื้อสินค้าและบริการในฝั่งไทยที่จะมีมูลค่าไม่น้อยไปกว่ากันอีกด้วย
นายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) กล่าวว่า การลงทุนนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนนิคมโลจิสติกส์เพื่อบริการรับส่งสินค้าข้ามแดนและกิจการบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว โดยพื้นที่ที่ใช้พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่หนองคายคือ อยู่ในพื้นที่ 13 ตำบล 2 อำเภอ คือ ที่อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอ สระใคร ปัจจัยหลักที่ช่วยดึงดูดการลงทุนคือ รัฐบาลไทยและลาวมีโครงการที่จะ ร่วมกันพัฒนาระบบรางต่อเนื่องจากจีนตอนใต้ ผ่านสปป.ลาวเข้ามายัง จังหวัดหนองคาย และไปยังระยองที่มาบตาพุดได้ และรถไฟยังขยายลงไปถึงประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์
สำหรับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ก่อนที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือกนพ. จะมีนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริษัท นาคา คลีนเพาเวอร์ จำกัด ดำเนินการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม มาก่อนแล้ว ดังนั้น กนพ.จึงมีมติให้บริษัทดำเนินการ พัฒนาต่อภายใต้การกำกับดูแลของกนอ. โดยพัฒนา ต่อเนื่องบนพื้นที่ประมาณ 2,960 ไร่ ที่ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย เพื่อรองรับ กิจการโลจิสติกส์ คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้าและขนส่ง อุตสาหกรรมผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนเรื่องการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ขณะนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดกระบวนการพิจารณาแล้ว โดยหากเป็นกิจการที่ไม่มีผลกระทบสุขภาพรุนแรงจะมีมาตรการดูแลการออกพิจารณาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในเร็วๆ นี้
นายวีระพงศ์กล่าวว่า ปัจจัยที่ดึงดูดผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพของระบบขนส่งค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการขนส่งทางราง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว และขยายไปยังระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก-ตะวันออกได้
ทั้งนี้ ล่าสุด กนอ. ได้ลงนามความร่วมมือกับคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษของ สปป.ลาว เพื่อยกระดับการค้าการลงทุน เบื้องต้นมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมการจับคู่ทางธุรกิจแล้วประมาณ 30 คู่ ซึ่งเมื่อการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนในบริเวณนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากปัจจุบัน อยู่ที่ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เชียงของในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดเชียงรายที่มีกระแสข่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องพัฒนานั้น ในส่วนของกนอ.ยืนยันว่า จะยังคงดำเนินการตามนโยบายของกนพ.ต่อไป เพราะยังไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ โดยจะพัฒนาใน 3 แห่ง คือ ที่อำเภอแม่สอด แม่สาย และอำเภอเชียงของต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า