อสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังต้องลุ้น นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเผยหนี้ครัวเรือนยังป่วน แก้เกมยอดรีเจ็กต์ไม่ตก หวั่นตลาดกลางล่างไม่มาโอนตามคาด “เอพี” แจงครึ่งปีหลังรายใหญ่แข่งขันโปรโมชันดุเดือดแน่นอน หวังดึงกำลังซื้อ บิ๊กพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเชื่อแนวโน้มดี แต่ต้นทุนที่ดินและวัสดุยังดันราคาปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นอกจากปัญหาด้านเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศแล้ว ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดูได้จากโครงการคอนโดมิเนียม โครงการดิ เอสเคป สุขุมวิท 101 ที่บริษัทเป็นผู้พัฒนา พบว่า ในช่วงที่ผ่านมายอดปฏิเสธสินเชื่อครั้งแรกอยู่ที่ 40% และเมื่อดำเนินการปรับกลยุทธ์ยื่นขอสินเชื่อ เช่น หาผู้กู้ร่วม ก็ยังพบว่ายอดปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับ 20% ซึ่งเป็นยอดปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่อยู่ในระดับ 10% ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลมายังการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะในกลุ่มกลาง-ล่าง
“ตลาดอสังหาฯจะดีได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการสนับสนุนอย่างจริงจังของภาครัฐ เช่น ให้ภาคเอกชนเข้าประมูลที่รัฐ รวมทั้งลดกระบวนการทางราชการที่ล่าช้าลง เพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์”
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งหลังปี 2558 มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากภาครัฐมีการเร่งรัดเม็ดเงินลงทุนสู่ระบบมากขึ้น แต่ด้วยโครงสร้างการทำงานของภาครัฐที่ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ อาจทำให้ไม่สามารถเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในทุกโครงการได้ แต่จะเห็นความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนภายในไตรมาส 4/2558 ส่งผลให้ภาคเอกชนกล้าลงทุน
ประกอบกับในช่วงครึ่งแรกปี 2558 ผู้ประกอบการต่างชะลอการลงทุน ดังนั้นในครึ่งปีหลังผู้ประกอบการเหล่านี้จึงจำเป็นต้องเร่งเปิดขายโครงการใหม่ พร้อมๆกับการระบายสต๊อกเดิมที่มีอยู่ เพื่อเร่งสร้างการรับรู้รายได้ในปี 2558 และสร้างยอดรับรู้รายได้ในอนาคต และกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการจะนำมาใช้ก็คือโปรโมชัน ที่คาดว่าจะมีความรุนแรงเพื่อดึงกำลังซื้อที่ไม่กล้าตัดสินใจ
ทั้งนี้ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ศักยภาพอย่างแนวรถไฟฟ้า คาดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการโอน เนื่องจากราคาตอนจองกับราคาขายในปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้น จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคเร่งโอนมากขึ้น แต่สำหรับโครงการที่อยู่ในพื้นที่ด้อยศักยภาพ อาจมีปัญหาเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ สืบเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนและนโยบายรถคันแรก ซึ่งคาดว่าปัญหาเหล่านี้จะสิ้นสุดภายในปี 2559 หากไม่มีปัจจัยลบอื่นมากระทบ
“แม้ว่าตลาดในครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ตลาดก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอย่างเรื่องของที่ดินและวัสดุที่ปรับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของโครงการแนวราบราคาจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ขณะที่คอนโดมิเนียมจะปรับราคาขึ้นถึง 10% เนื่องจากที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการพัฒนาคอนโดมิเนียมในพื้นที่ที่มีศักยภาพมีราคาเพิ่มสูงขึ้น”
ด้าน นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ในครึ่งหลังปี 2558 ตลาดอสังหาฯจะแข่งขันรุนแรงมากกว่าครึ่งปีแรก ทั้งในเรื่องของการเปิดตัวโครงการใหม่และโปรโมชัน เพราะด้วยเป้าหมายการเติบโตของบริษัท ทำให้ในครึ่งหลังปี 2558 บริษัทต่างๆต้องเร่งดำเนินการให้ได้ตามแผนที่วางไว้
สำหรับเอพี ก็ดำเนินการตามแผนงานเดิม โดยในปีนี้จะเปิดทั้งหมด 26 โครงการ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 10 โครงการ และคอนโดมิเนียม 10 โครงการ รวมมูลค่า 3.98 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งแรกปี 2558 เปิดไปแล้ว 11 โครงการ มูลค่ารวม 1.9 หมื่นล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่า 1.35 พันล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ มูลค่า 1.53 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 1.61 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายทั้งปีที่ 2.83 หมื่นล้านบาท สำหรับเป้ารับรู้รายได้ในปี 2558 อยู่ที่ 2.53 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท
“กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการจะนำมาใช้ก็คือโปรโมชัน ที่คาดว่าจะมีความรุนแรงเพื่อดึงกำลังซื้อที่ไม่กล้าตัดสินใจ”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ