บอร์ดกนอ.ไฟเขียวพื้นที่ตั้งนิคมฯ 6 แห่ง รับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใช้งบลงทุนพัฒนากว่า 3 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นกนอ.สนใจลงทุนเอง 2 แห่ง ในจ.ตากและสระแก้ว
ส่วนที่เหลือเป็นนิคมฯร่วมกับภาคเอกชน โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 กลุ่ม โดยให้ที่แม่สอดเป็นนิคมฯพลาสติกแล้ว พร้อมเดินหน้าเจรจากับเอกชนดึงการลงทุน
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดกนอ.มีนางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพต่อการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 6 แห่ง ในจ.ตาก สงขลา มุกดาหาร ตราด สระแก้ว และหนองคาย เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในระยะแรก ซึ่งได้มีการนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการด้านการจัดหาที่ดินและบริหารจัดการไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ที่เห็นชอบให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะพัฒนาพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพ
สำหรับพื้นที่ทั้ง 6 แห่ง ที่บอร์ดกนอ.เห็นชอบในการกำหนดพื้นที่นิคมฯ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก ประกอบด้วยจังหวัดสงขลา ขนาดพื้นที่จำนวน 1,097.16 ไร่ เป็นพื้นที่ติดถนนกาญจนวนิช ตั้งอยู่ที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.มุกดาหาร ขนาดพื้นที่จำนวน 1,085.64 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.ตาก ขนาดพื้นที่จำนวน 14,858 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวได้มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ มีการสำรวจรายละเอียดของพื้นที่อีกครั้ง เพื่อคัดแยกพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด จ.สระแก้ว ขนาดพื้นที่จำนวน 690 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.ป่าไร่ อ.สระแก้ว จ.ตราด ขนาดพื้นที่จำนวน 411.10 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ และจ.หนองคาย ขนาดพื้นที่จำนวน 2,960.2 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.โพนสว่าง อ.เมือง ได้มีการนำมารวมอยู่ในการพัฒนาระยะที่ 1 ด้วย เนื่องจากได้มีการอนุมัติให้ภาคเอกชนไปดำเนินการจัดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยจากนี้ไปกนอ.จะไปดำเนินการจัดทำแผนด้านการลงทุน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการพิจารณาว่ากนอ.จะเป็นผู้ลงทุนพัฒนานิคมฯในพื้นที่จ.ตากและจ.สระแก้ว ส่วนที่เหลืออีก 3 แห่ง คาดว่าจะให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้ง ซึ่งหากประเมินพื้นที่ทั้ง 6 แห่ง โดยไม่รวมการจัดตั้งนิคมร่วมของภาคเอกชนใน จ.หนองคายไปแล้ว จะต้องใช้เงินในการจัดตั้งหรือพัฒนานิคมฯ กว่า 3 หมื่นล้านบาท จากจำนวนที่ดิน 21,102.1 ไร่
นายวีรพงศ์กล่าวอีกว่า ส่วนประเภทอุตสาหกรรมที่จะเข้าไปดำเนินการนั้น ทางกนพ.ก็ได้อนุมัติกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายไว้ 12 กลุ่มกิจการ ซึ่ง กนอ.จะไปหารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกลุ่มต่างๆ ว่ามีความพร้อมหรือสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในนิคมฯ พื้นที่ใดบ้าง โดยเฉพาะนิคมฯในพื้นที่แม่สอดนั้น ได้กำหนดให้เป็นนิคมฯพลาสติกบางส่วนแล้ว ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะต้องไปศึกษาในรายละเอียดว่าเหมาะสมกับประเภทอุตสาหกรรมใด ซึ่งผู้ที่เข้าไปลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอระบุไว้
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ที่ประชุมบอร์ดยังได้มอบหมายให้ กนอ.เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ของโครงการนิคมอุตสาหกรรม ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษใน 9 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลา นครพนม นราธิวาส กาญจนบุรี และบึงกาฬ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ