แหล่งข่าวจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2558 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
เพื่อติดตามความคืบหน้าของคณะอนุฯเดิม 3 ชุด และรวมอนุกรรมการจัดหาที่ดินรัฐ ที่ตั้งเพิ่มใหม่อีก 1 ชุด
โดยคณะอนุฯด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่ครม.อนุมัติงบกลางปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 2.4 พันล้านบาท สนับสนุนการก่อสร้างสะพานไทย-เมียนมาร์ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 วงเงิน 3.9 พันล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนนในเมียนมาร์ จากกอกาเรก-จ่องโด-ผะอัน 120 กิโลเมตร ขนาด 2 ช่องจราจร ต่อจากแม่สอด-กอกาเรก 45 กิโลเมตร ที่ใกล้แล้วเสร็จ รวมถึงสาธารณูปโภคด้านอื่นๆเช่นไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ฯลฯ ที่ต้องเร่งดำเนินการเข้าไปในพื้นที่
ด้านนายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการดึงดูดนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่จะต้องมีสิทธิประโยชน์แรง ๆ จูงใจ จึงมอบสภาพัฒน์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ให้มีรายละเอียดที่จะจูงใจนักลงทุนมากที่สุด นั่นคือ เรื่องขอการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น ที่สำคัญจะนำเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้เป็นเงื่อนไขจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 6 จังหวัดนี้ด้วย
สำหรับตัวอย่าง นโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่จะนำมาใช้จูงใจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น 1.ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร 2.ยกเว้นอากรขาเข้า 75% สำหรับวัตถุดิบนำเข้ามาผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นเวลา 5 ปี 3.ยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี (ไม่จำกัดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 4.ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี 5.หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าประปา 2 เท่า ของค่าใช้จ่ายดังกล่าว 15 ปี 6.หักเงินลงทุนในการติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก 25% ของเงินลงทุน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือด้านเงินทุน (ซอฟต์โลน) โดยอนุมัติวงเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาทในช่วงปีแรกๆ แล้วเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท ผู้ประกอบการในพื้นที่กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ(กรอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธาน สั่งต่ออายุ 3 ปีถึงธันวาคม 2560
ส่วนนโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่อนุมัติไปก่อนหน้า ประกอบด้วย ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา 8 ปีและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50%เพิ่มอีก 5 ปี หักค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปา 2 เท่า หักค่าติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกได้ 25% ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก และผ่อนผันให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ