ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ แจง อสังหาฯ 2 เดือน ทรงตัว เปิดใหม่แนวราบ-คอนโด 8 พันยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่บ้านจัดสรร เปิดใกล้เคียง 5 พันยูนิต คอนโด เปิดใหม่ลดเหลือ 3 พันยูนิต ระบุลดดอกเบี้ย 0.25% หนุนกำลังซื้อผู้บริโภค
วานนี้ (12มี.ค.) เปิดฉากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 23 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ จัดโดย 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ท่ามกลางสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในภาวะทรงตัว
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ที่ผ่านมา มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 8,000 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2557 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่กว่า 1-1.1 หมื่นยูนิต แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 5,000 ยูนิต ใกล้เคียงกับ ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนคอนโดมิเนียม เปิด 3,000 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่เปิด 5,500-6,000 ยูนิต เนื่องจากมีคอนโด เปิดใหม่ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี2557 มีจำนวนมาก คิดเป็น 50% ของจำนวนยูนิตเปิดทั้งปี 7.3 หมื่นยูนิต โดยประเมินว่าปี2558จะมีบ้านจัดสรรเปิดใหม่มากกว่า 4.5 หมื่นยูนิต คอนโด เปิดใหม่ประมาณ 7 หมื่นยูนิต ตามแนวโน้ม ความต้องการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า
ส่วนที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 1.75% มองว่า มีผลทางจิตวิทยาโดยเริ่มเห็นว่าธนาคารพาณิชย์เริ่มลดดอกเบี้ยลงตามแล้ว โดยมองว่าการลดดอกเบี้ยมีข้อดี คือทำให้คนมีกำลังซื้อ กล้ากู้เงิน เกิดการบริโภคและการลงทุน แต่อีกด้านหนึ่ง ทำให้คนที่ฝากเงินกับธนาคารได้ดอกเบี้ยน้อยลงอาจถอนเงินเพื่อนำมาลงทุนเก็งกำไรสินทรัพย์อื่นได้
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% มูลค่าตลาดรวมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 3 แสนล้านบาท จากปี 2557 มีมูลค่าตลาดรวม 2.93 แสนล้านบาท
อสังหาฯต่างจังหวัดยังทรงตัว
สำหรับตลาดในต่างจังหวัด คาดว่าจะยังทรงตัว เนื่องจากมีโอเวอร์ซัพพลายในหัวเมืองใหญ่ต่างๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เปิดมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% จะช่วยให้กำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2% และส่งผล ในเชิงจิตวิทยาต่อการตัดสินใจของ ผู้บริโภค โดยการจัดงานมหกรรมบ้านและ คอนโด32 ในครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของประชาชนหรือไม่
เงินฝืดหวั่นกระทบศก.ภาพรวม
ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคม ธุรกิจบ้านจัดสรร ประเมินว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังเติบโต ได้ต่อเนื่อง แต่เป็นไปอย่างช้าๆ ไม่ได้ หวือหวาตามคาดการณ์ จากปัญหาหนี้ ครัวเรือนสูง
สำหรับตลาดจังหวัด ยังชะลอตัวอยู่ เริ่มเกิดปัญหาภาวะเงินฝืด เนื่องจากประชาชนชะลอการบริโภค ขณะนี้เริ่มเห็นยอดขายรถจักรยานยนต์ รถปิกอัพ ขายลดลง รวมถึง มีการทิ้งเงินดาวน์ เพราะราคาสินค้าเกษตร ตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง อีกทั้ง แนวโน้มปัญหาภัยแล้งคาดว่าจะเกิดขึ้น ยิ่งทำให้สินค้าเกษตรผลิตได้น้อยลง แสดงถึงว่าราคาสินค้าเกษตรยังไม่มีทิศทางว่า จะดีขึ้น แม้ว่าฐานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เมื่อเศรษฐกิจ ภูมิภาคชะลอตัว สินค้าขายไม่ได้ จะทำให้ โรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ต้องลด กำลังการผลิตลง หากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะกระทบลามมาถึงเศรษฐกิจภาพใหญ่ได้
น.ส.เกศรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.75% น่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้บ้าง และหากธนาคารลดดอกเบี้ยลงตาม ก็จะมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคชำระค่าดอกเบี้ยบ้านลดลง
มหกรรมบ้านวันแรกคึกคัก
สำหรับบรรยากาศภายในมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 23 ในวันแรกค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนมาเดินชมงานจำนวนมาก ภายในงานผู้ประกอบการนำโครงการที่อยู่อาศัย 600 โครงการจาก 200 บริษัท มาจัดโปรโมชั่นส่วนลด ของแถม แจกของรางวัล ตั้งแต่การฟรีการโอน ทองคำหนัก 5 บาท และรถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์ GLA 200 เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ อาทิ บริษัทธรารมณ์ จำกัด (มหาชน) ลดสูงสุด 1.3 ล้านบาท, บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด(มหาชน) นำบ้านพร้อมอยู่ 10 โครงการ 10 ทำเล ให้ส่วนลดสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท พร้อมรางวัลรถสำหรับโครงการเราคา1-2 ล้านบาทขึ้นไป ฟรีโอนทุกรายการ, บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) นำกว่า 30 โครงการมาร่วมงาน กับโปรโมชั่น 4 ต่อ แอร์ -โอน -เฟอร์นิเจอร์ และสมาร์ท โฟน เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณกว่า 1 แสนคน และมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศชะลอการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ร่วมเสนอแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว ต่อพล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ) อีกครั้ง หลังจากที่ได้เสนอต่อกระทรวงการคลังไปเมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยได้เสนอให้แก้ไขใน 3 ข้อ ได้แก่ 1. กำหนดเพดานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ซึ่งเดิมเป็นภาษีบำรุงท้องที่อยู่แล้ว และหากมีการจัดเก็บภาษีใหม่ก็จะไปซ้ำซ้อนกัน ดังนั้น ควรกำหนดเป็นเพดานราคาแทนการจัดเก็บเป็นอัตราตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์ โดยค่าธรรมเนียมโอนเดิมจัดเก็บใน อัตรา 2% ให้ปรับเป็น จัดเก็บในอัตรา 2% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท ค่าจดจำนองเดิมจัดเก็บในอัตรา 1% ปรับเป็น จัดเก็บ 1% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท
2.ยกเว้นภาษีทรัพย์ส่วนกลาง ในโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม เนื่องจากทรัพย์ส่วนนี้ลูกบ้านเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไม่ใช่ท้องถิ่น อีกทั้งได้คำนวณรวมเข้าไปในราคาบ้าน ซึ่งลูกบ้านได้เสียภาษีบำรุงท้องที่อยู่แล้วหากจัดเก็บจะเป็นการซ้ำซ้อน ดังนั้นจึงควรยกเว้นการจัดเก็บ และ3.ยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในโครงการจัดสรรที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้ขายไปจนถึง 5 ปี ในเบื้องต้น รัฐบาลเห็นชอบในการยกเว้นภาษีทรัพย์ ส่วนกลาง ส่วนการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การโอนและค่าจดจำนองในอัตราไม่เกิน 5,000 บาทและยกเว้นภาษีบ้านพร้อม ที่ดินที่ยังไม่ได้ขายในระยะ 5 ปี อยู่ระหว่างพิจารณา
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ