จากปัจจัยเสี่ยงและความผันผวน ของเศรษฐกิจ การเมือง หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง เป็นปัจจัยฉุดรั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ไม่มาก ผู้ประกอบการเผชิญทั้ง “โอกาส” และ “ความท้าทาย”
ชายนิด อรรถญาณสกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจ อสังหาฯ ปีนี้ มีทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยภาวะเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในและต่างประเทศมีความผันผวน หากมอง “โอกาส” ธุรกิจมีปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และการลงทุนภาครัฐ
แต่ยังมีปัจจัยน่าห่วง คือ “หนี้ครัวเรือน” ในระดับสูง ส่งผลกำลังซื้อลดลง แม้ความต้องการซื้อมีอยู่จริง แต่อัตราการปฏิเสธ สินเชื่อระดับ 25% มีผลอย่างมากต่ออัตรา การขาย จะมีการแข่งขันรุนแรงระหว่างผู้ประกอบการ 10 รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดถือครองรวม 70%
กลยุทธ์การบริหารของเพอร์เฟค มุ่งขยายโปรดักส์ในตลาดระดับบนมากขึ้น จากแผนการเปิด 24 โครงการปีนี้ เป็นแบรนด์ “มาสเตอร์พีซ” บ้านราคา 15 ล้านบาท 5 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท
“ตลาดบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมระดับบนเติบโตได้ดี ผู้ซื้อไม่มีปัญหารายได้ แม้กลุ่มลูกค้าระดับล่างเป็นตลาดใหญ่ แต่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน คาดกระทบตลาดยาวถึงปี 2559”
:แก้โจทย์รายสัปดาห์-รายเดือน
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจ อสังหาฯ ต้องเกาะติดสถานการณ์เพื่อปรับตัวได้เร็ว เพราะอสังหาฯ เผชิญสถานการณ์ความผันผวน ต้องแก้โจทย์เป็นรายสัปดาห์ รายเดือน
“บางทำเลที่เข้าไปเปิดโครงการ ตอนแรก ไม่มีโครงการเปิดเลย แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว อาจเห็นอีก 7 โครงการของคู่แข่งเข้ามา เปิดในทำเลนั้น ระดับปฎิบัติการ ต้องมอนิเตอร์ยอดการเข้าชมโครงการทุกอาทิตย์ มีจำนวนน้อยลงต้องปรับตัว สิ่งสำคัญ คือ การเกาะติดข้อมูล ถ้าสถานการณ์ไม่ดีต้อง ปรับกลยุทธ์ให้ทันี่ ไม่มีทำเลทองการพัฒนา แต่ทำเลทอง คือ การหาช่องว่างการตลาดให้ได้ เป็นโจทย์ที่ยาก”
แนวการบริหารเชิงกลยุทธ์ของเอพี ปีนี้ เป็น “เซฟตี้โซน” เน้นการกระจายสินค้า ที่มีความหลากหลาย ในทุกระดับราคาตั้งแต่ 2 -10 ล้านบาท และการมีวินัยทางการเงิน มีการคุมอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1% และ สินค้าที่อยู่ในทำเลที่ดี อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าทั้งหมด
:ท็อปส์ไฟว์แข่งเดือดชิงตลาด
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อสังหาฯ เป็นยุคการแข่งขันของท็อปไฟว์ที่แท้จริง โดยอนันดา มุ่งการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดแนวรถไฟฟ้า เพราะเมื่อการขยายตัวของเครือข่ายรถไฟฟ้ามีความชัดเจน และความต้องการคอนโดติดรถไฟฟ้าที่สูงขึ้น สิ่งท้าทายสำหรับอนันดา คือการรักษาความเป็นผู้นำการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นทำเลแข่งขันดุเดือดมาตลอด กลยุทธ์สำคัญ คือ เครื่องมือการตลาดต้องครบถ้วน แบรนด์ ที่มีความเข้าใจลูกค้าของตัวเอง ต้องมีนวัตกรรมใหม่เชิงดีไซน์
“ธุรกิจอสังหาฯ ไม่มีกำแพงการค้า ใครก็เข้ามาได้ แต่เราเล่นตามคีย์ของเราเอง หากตลาดชะลอตัว จะเลือกแบรนด์ไอดีโอเป็นหัวหอก เพราะหัวใจหลักของสังคมกรุงเทพฯ คือรถไฟฟ้าที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น การสร้างแบรนด์ที่ดีต้องเข้าใจลูกค้า การตั้งราคาขายต้องรู้เซกเมนต์ตลาดก่อนลงไปเล่นก่อน ไม่แข่งขันด้วยราคา”
อีกกลยุทธ์หนึ่ง คือ การสร้างความ หลากหลายของสินค้าและ ราคา แม้อนันดา มีแบรนด์สินค้าเกือบทุกระดับ แต่ยังขาดราคาต่ำล้าน สำหรับกลุ่มคนทำงานในเมืองต้องการที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า มีงบประมาณจำกัด จึงสร้างเบรนด์ใหม่”ยูนิโอ” เจาะตลาดกลุ่มนี้ซึ่งเป็นฐานตลาดใหญ่
“อนันดา มองสวนกระแส ขณะที่ ผู้ประกอบการรายอื่นชะลอการทำตลาดนี้ เพราะเลี่ยงปัญหาหนี้ครัวเรือน ในยามที่คนอื่นกลัว เราควรลงมาทำ เพราะคู่แข่งน้อย แบรนด์ยูนิโอ เป็นซูเปอร์แวร์รู คอนโด เจาะคนทำงานในเมือง”
:ลุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการต่างรอดูสถานการณ์ตลาดในครึ่งปีหลังว่างบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้าสู่ในระบบในช่วงครึ่งปีแรก จะมีผลกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจจากน้อยแค่ไหน
“ปัจจัยน่าห่วง คือ หนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง มองว่าปีนี้เซกเม้นท์ที่เติบโตจะเป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดราคา 10 ล้านบาท ขยายตัวกว่า 10% ซึ่งเอสซีฯ มีรายได้ของบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท 70-80% ของพอร์ตรายได้ เราวางเป้าหมายขึ้นเป็นท็อปไฟว์ในตลาดนี้ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดอันดับ1 ในบ้านระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป”
อย่างไรก็ดี หากธุรกิจจะเติบโตตามเป้าหมาย 5 ปี ยอดขาย 2 หมื่นล้าน รวมถึงสถานการณ์ที่ยังมีความผันผวน จำเป็นต้องขยายไปตลาดในกลุ่มระดับราคาใหม่ โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท เป็นตลาดใหญ่ สัดส่วน 1 ใน 3 ของตลาดบ้านทุกระดับราคา แม้จะมีคู่แข่งขันมากก็ตาม แต่บริษัทจำเป็นต้องเล่นในสนามนี้ซึ่งยังมีโอกาส โดยสร้างจุดต่างเพื่อจะแข่งขันกับคู่แข่งได้
ในแง่ยุทธศาสตร์เชิงรับ บริษัทจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีพรีคาส ที่จะนำมาใช้มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นรักษาสินค้าและบริการให้อยู่ในระดับ พรีเมี่ยม พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ