นายสยามรัฐ สุทธานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าในปีนี้ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์จะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท
ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และคาดว่าหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากจะมีผู้เล่นจากต่างประเทศเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนการที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคนั้น ขณะนี้เอกชนได้มีการลงทุนและเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่อยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบราง ถนน ทางน้ำและทางอากาศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นพร้อมทั้งพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่มในภาคธุรกิจการขนส่ง แทนที่จะเป็นทางผ่านของสินค้าเพียงอย่างเดียว
นายสยามรัฐกล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในระยะ 5 ปี (2558-2562) บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านบาท จากปี 2557 ที่มียอดขาย 1.5 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจเครือเอสซีจี 86% ธุรกิจอื่นๆ 11% และอีก 3% เป็นธุรกิจต่างประเทศ และในปี 2562 จะมียอดขายจากกลุ่มธุรกิจเครือเอสซีจีสัดส่วน 60% ธุรกิจอื่นๆ 30% และธุรกิจต่างประเทศ 10%
“มีแผนจะพัฒนาเครือข่ายการขนส่งข้ามประเทศและการลงทุนคลังสินค้า เน้น 3 ด่านชายแดน คือ อรัญประเทศ แม่สอด และมุกดาหาร และเตรียมจัดตั้งบริษัทโลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย โดยร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อรองรับการขนส่งปูนซีเมนต์ซึ่งกลุ่ม เอสซีจีได้ขยายไปลงทุนไว้ ส่วนปี 2559 จะจัดตั้งบริษัทโลจิสติกส์ในพม่า” นายสยามรัฐกล่าว