สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้แนวโน้มตลาด รับสร้างบ้านปีนี้โตแค่ 7% มองเศรษฐกิจขยายตัวไม่สูง-ความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้น พบลูกค้า ยืดเวลาตัดสินใจสร้างบ้านยาว 6เดือน-1ปี แนะรัฐ ออกมาตราภาษีกระตุ้นตลาด
นายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดรับสร้าง ปี 2558 คาดเติบโตไม่สูง หรือประมาณ 7% ซึ่งในภาวะปกติตลาดเติบโตเฉลี่ย 10-15% จากมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านในปี2557 อยู่ที่ 11,500 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่มาก การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐค่อนข้างต่ำ ส่วนการลงทุนเมกะโปรเจคของภาครัฐ หลายโครงการยังไม่เริ่มเป็นรูปธรรมในปีนี้ อีกทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ สะท้อนได้จากยอดรับสร้างบ้านในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่ดีมากนัก พบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเข้ามาสอบถามข้อมูล แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่ได้ตัดสินใจสร้างบ้าน อย่างไรก็ดีพบว่าตั้งแต่มีปัญหาการเมืองในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาในการหาข้อมูลและตัดสินใจสร้างบ้านนานขึ้นเป็น 1 ปี หรือเร็วสุดใช้เวลา 6 เดือน จากเดิมใช้เวลาตัดสินใจสร้างบ้านไม่เกิน 6 เดือน “รัฐบาลต้องมาตรการการกระตุ้นภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนมากและทำอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เพราะปัจจุบันไม่ใช่ว่ากำลังซื้อไม่ดี แต่ผู้บริโภคมีเงินแต่ไม่กล้าใช้จ่าย” นายวิสิฐษ์ กล่าว
สมาคมฯ เห็นว่าสิ่งที่จะกระตุ้นตลาด รับสร้างบ้านให้เติบโตได้ดี ก็คือภาครัฐควร จัดทำมาตรการด้านการลดหย่อนภาษี สำหรับ ผู้สร้างบ้านบนที่ดิน โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5% เช่น สร้างบ้านในราคา 5 ล้านบาท สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2.5 แสนบาท เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้านไม่ได้รับการลดหย่อนภาษีจากภาครัฐ
อย่างไรก็ดีมองว่าภาษีมรดกที่จะออกมาบังคับใช้ เริ่มเห็นตัวเลขการโอนที่ดินเพิ่มขึ้น 40% ในช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกระตุ้นทางอ้อมให้มีการสร้างบ้านบนที่ดินได้มามากขึ้น จากเดิมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ จะแยกมาสร้างบ้านของตัวเองจากที่ดินมรดก
นอกจากนี้สมาคมฯได้เตรียมจัดงาน “โฮม บิวเดอร์ โฟกัส 2015” ระหว่างวันที่ 12-15 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปีนี้รูปแบบงานมีเนื้อหาที่ตอบสนองความต้องการของผู้ปลูกสร้างบ้านมากขึ้น ด้วยคอนเซปต์ Absolute Home & Life stlye นำเสนอโมเดลแบบบ้าน 5 ไลฟ์ไสตล์ พร้อมแบบประเมินราคาค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนการปลูกสร้างและการตกแต่ภายในและ ภายนอกเพื่อการตัดสินใจให้ผู้บริโภค พร้อมเสนอแพ็คเกจสินเชื่อจากสถานบันการเงิน โดยมีสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วย บริษัทรับสร้างบ้าน บริษัทวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับบ้าน สถาบันการเงิน กว่า 60 บริษัทเข้าร่วมงาน คาดมีผู้เข้าชมงานประมาณ 5 หมื่นคน และมีเงินสะพัดกว่า 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนมีเงินสะพัด 786 ล้านบาท
“เป้าหมายการจัดงานปีนี้มุ่งตอบสนองผู้บริโภคและพันธมิตรในธุรกิจเป็นหลัก หากธุรกิจรับสร้างบ้านเติบโต บริษัทรับสร้างบ้าน ก็สามารถขยายงานและขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเองจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน”
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ