นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเร ชั่นจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาทเป็นปีแรก
โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “เพฟ” เพราะมองว่า แม้จะเป็นตลาดที่แข่งขันสูงมาก แต่ยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่โดยเน้นใช้จุดเด่นจากการเป็นแบรนด์พรีเมียมเน้นคุณภาพให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านราคาระดับใดก็ตาม คาดว่าจะสร้างฐานรายได้ 10-15% ในปี 62 ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนระยะ 5 ปีข้างหน้าในการรักษาความเป็นอันดับ 1 ของตลาดบ้านราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป และรักษาอันดับ 1 ใน 5 ของตลาดบ้านราคา 5-15 ล้านบาทโดยมีรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท
สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน (พรีเมียม) 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการมูลค่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกนี้คาดว่าจะเปิด 2 โครงการหรู (ลักซ์ชัวรี่) คือโครงการกรานาดาปิ่นเกล้าเพชรเกษม มูลค่า 2,100 ล้านบาท และโครงการศาลาแดง วันซึ่งเป็นคอนโดฯ มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการเดือน พ.ค.นี้พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขาย 13,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 52%
“คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโต 5-10% โดยเฉพาะตลาดที่โตมากที่สุด คือบ้านเดี่ยว หรือคอนโดฯที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป เพราะเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และมีกำลังซื้อที่ดีโดยเฉพาะ กทม. และปริมณฑล แต่ตลาดต่างจังหวัดนั้น ยังชะลอตัว ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนที่จะไปลงทุนเพิ่มเติมจากที่เคยลงทุนไว้แต่อย่างใด โดยขณะนี้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 5,200 ล้านบาทและวางงบลงทุนก่อสร้างไว้ 7,800 ล้านบาท”