เป็นที่รู้กันดีว่า ราคาที่ดิน ในประเทศพม่า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อย่าง “ย่างกุ้ง” ปรับตัวสูงขึ้น หลายเท่าตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และกลุ่มทุนต่างชาติที่แห่เข้าไปลงทุนในพม่า
สอดคล้องกับข้อมูลของ อัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่มองว่า ราคาที่ดินและจำนวนสิ่ง
ปลูกสร้างอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ทั้ง คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และสำนักงาน (ออฟฟิศ) ต่างๆ ในพม่าจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 100% ตลอดช่วง 5 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน
ปัจจุบันกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนในพม่า ส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์ ซึ่งร่วมทุนกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ของ พม่า เพื่อรับงานต่างๆ
ขณะที่บริษัทรับเหมาไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ก็จะเข้าไปรับงานต่อจากรายใหญ่ เช่น การรับเหมาวางเสาไฟฟ้าหรือรับงานบางส่วนจากโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทใหญ่ได้มา
ทั้งนี้ ปัจจุบันพม่ามีบริษัท รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่สัญชาติพม่าประมาณ 10 ราย และเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก อีกประมาณ 40-50 ราย
ขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ศึกษาลักษณะและพฤติกรรมการอยู่อาศัยของชาว พม่า พบว่า ราคาที่ดิน ค่าเช่าตึกสำนักงาน คอนโดมิเนียม ตลอดจนอพาร์ตเมนต์ในกรุงย่างกุ้งแพงมาก เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชาว พม่าจากทั่วประเทศเข้ามาอยู่อาศัย เพื่อหาโอกาสทำงานจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการสูงกว่าจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่
ผลจากการศึกษา ระบุว่า ชาวพม่าส่วนใหญ่ 37% อาศัยในแฟลต/อพาร์ตเมนต์ รองลงมา 30% เป็นทาวน์เฮาส์/บ้านแฝด บ้านเดี่ยวหรือวิลลา มีอยู่ประมาณ 7% ซึ่งแฟลตและอพาร์ตเมนต์มักมีลักษณะคล้ายอาคารพาณิชย์ แต่มีความสูงประมาณ 5-8 ชั้น
จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างชาวพม่าจำนวน 400 คน พบว่า ส่วนใหญ่กว่า 46% อยู่ในบ้านที่สร้างเองหรือพ่อแม่สร้าง รองลงมา 21% ซื้อมาจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ 12% เป็น ที่อยู่อาศัยสร้างโดยรัฐบาล
นอกจากนี้ หากจะซื้อบ้าน หลังใหม่ กลุ่มตัวอย่างราว 60% จะซื้อบ้านเปล่าที่ยังไม่ตกแต่ง เพราะราคาถูกกว่าที่ตกแต่งแล้ว
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการตกแต่งห้องนั่งเล่นหรือ ห้องรับแขกมากที่สุด เพราะเป็นห้องที่สามารถใช้เวลาร่วมกับสมาชิกในครอบครัวในชีวิตประจำวันได้ และยังใช้บ่งบอกฐานะเมื่อแขกมาเยี่ยมเยือนได้ด้วย เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ส่วนใหญ่ทำจากไม้ เพราะราคาถูก หาได้ง่ายและทำเองได้
เมื่อต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ชาวพม่าส่วนใหญ่จะไปซื้อจากร้านเฟอร์นิเจอร์ รองลงมาคือ ห้างหรือศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ และห้างสรรพสินค้าทั่วไป มีเพียง 11% ที่สั่งจากผู้ผลิตหรือช่างทำเฟอร์นิเจอร์ และ 5% ซื้อจากงานแสดงสินค้า ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ประกอบเสร็จมากที่สุด หรือประมาณ 55% รองลงมา 22% ชอบเฟอร์นิเจอร์โบราณ อีกประมาณ 17% ชอบเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน และมีแค่ 3% ชอบเฟอร์นิเจอร์แบบต้องประกอบเอง (DIY)
จากข้อมูลเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพม่าและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อาทิ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเป็นโอกาส ที่น่าสนใจ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่อยากออกไปขยายธุรกิจต่างแดน