มาถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานในปี 2557 ของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มหลักที่นำร่องประกาศงบการเงินออกมาแล้ว
โดยบล.กรุงศรี เปิดเผยว่า กำไรสุทธิรวมในไตรมาส 4 ปี 2557 ของบริษัทในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลง ถึง 10% จากไตรมาสก่อน ถือได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดของปี เนื่องจากกำไร เงินลงทุนลดลง และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามยังคงมีอีกหลายบริษัท กระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่อยู่ระหว่างทยอยประกาศงบการเงิน ของไตรมาส 4 ปี 2557 ออกมาในช่วง โค้งสุดท้ายนี้
จากการสำรวจความเห็นของ นักวิเคราะห์ถึงกลุ่มอุตสาหกรรมดาวเด่นประจำไตรมาส 4 ปี 2557 และมีแนวโน้มที่จะสามารถเติบโตต่อเนื่องในปี 2558 นี้
‘อสังหาริมทรัพย์และสายการบิน’ คือกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักวิเคราะห์ ต่างลงความเห็นตรงกันว่าโดดเด่นที่สุด
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มองว่า ‘กลุ่มอสังหาริมทรัพย์’ น่าจะเป็นกลุ่มที่งบการเงินในไตรมาส 4 ปี 2557 ออกมาเติบโตได้ดี เพราะเป็นช่วงที่หลายๆ บริษัทเร่งโอนกรรมสิทธิ์อย่าง ต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2558 ยังเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของ กำลังซื้อภายใน ประเทศ
“นอกจากกลุ่มอสังหาฯ แล้ว อุตสาหกรรมที่น่าผลประกอบการในไตรมาส 4 เติบโตและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องใน ปีนี้ คือ กลุ่มขนส่งโดยเฉพาะสายการบิน ที่รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และ การฟื้นตัวของตัวเลขท่องเที่ยว กลุ่มไอซีที ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ลดลงและมีผู้ใช้งานในระบบเพิ่มขึ้น กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากงานที่รอรับรู้รายได้ รวมถึงโอกาสที่จะรับงานเพิ่มหลังโครงการภาครัฐดำเนินการเต็มที่” นายกวี กล่าว
การโอนอสังหาริมทรัพย์ในปริมาณ ที่มากกว่าทุกไตรมาสทำให้ นายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงาน วิเคราะห์หลักทรัพย์บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เชื่อว่า ช่วงไตรมาส 4 ของ ปี 2557 ถือเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้หุ้นกลุ่มนี้ยังมีค่าพีอีที่ไม่สูงมากนัก และในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นยังมีการ
ปรับขึ้นไม่มากจนเกินไป จึงถือเป็นกลุ่ม ที่น่าลงทุน ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ จะมีแนวโน้มเติบโตของผลการดำเนินงานโดยรวมในระดับที่น่าพอใจ แม้จะไม่ก้าวกระโดดในไตรมาส 4 ปี 2557 แต่จัดเป็นกลุ่มที่ยังคงน่าลงทุนในระยะยาว เนื่องจากได้รับผลดีโดยตรงจากนโยบาย ดิจิทัล อีโคโนมี ของภาครัฐ และการเปิดประมูลคลื่น 4จี ในช่วงครึ่งหลังปีของปี 2558 และที่สำคัญยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูงอีกด้วย
ทางด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ได้ให้ น้ำหนักกับกลุ่มสายการบิน โดยนางสาว อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์มองว่า หุ้นในกลุ่ม สายการบินจะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวกลับมาได้
โดดเด่นที่สุดในปี 2558 นี้ หลังจาก ปีก่อนประสบปัญหาไปพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามการจะเข้าลงทุนต้องพิจารณา ราคาหุ้นในขณะนั้นด้วย เพราะหุ้นบางตัวราคาหุ้นอาจจะสะท้อนการฟื้นตัวไปพอสมควรแล้ว
ทั้งนี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่าบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เป็นหุ้นที่น่าสนใจที่สุด โดยคาดว่าไตรมาส 4 ปี 2557 น่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 300-400 ล้านบาท และในปี 2558 จะมีกำไรสุทธิประมาณ 1,400 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสาร การท่องเที่ยวในประเทศ และราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับมุมมองของนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ที่คาดการณ์ว่ากลุ่มสายการบินจะมีผลประกอบการที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 4 ปี 2557 ทั้งจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาส 2 ปี 2557 หลังได้รับอานิสงส์ของราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก รวมถึงการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ “ปีนี้กลุ่มสายการบินน่าจะกลุ่มที่ เทิร์นอะราวด์กลับมาจากปีก่อน ซึ่งประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้การท่องเที่ยว ซบเซาลงไป โดยปีนี้จำนวนผู้โดยสารน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของปี ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจจะเกิด ความผันผวนได้หากราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัว”
นายอภิชาติ กล่าว นอกจากนี้อุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งบล.ทิสโก้ มองว่าน่าจะเติบโตดีต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี ตามการขยายตัวของโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชนในประเทศ รวมถึงงานที่รอรับรู้รายได้ ในขณะนี้จะช่วยให้กำไรเติบโตอย่างมั่นคง
ทางด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า งบการเงินในไตรมาส 4 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ น่าจะออกมาเติบโตดี ตามยอดโอนที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนกลุ่มขนส่ง กลุ่มการบิน น่าจะออกมาดีเช่นกันหลัง ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรง นอกจากนี้ กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม น่าจะเป็นอีกกลุ่มที่งบการเงินน่าจะเติบโตตามช่วงไฮซีซั่น ของธุรกิจ
“สำหรับปี 2558 เชื่อว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้น่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่นักลงทุนอาจจะต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัวมากขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นบางตัว ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานไปเกือบหมดแล้ว สำหรับกลุ่มอสังหาฯ เชื่อว่าจะเติบโตได้ต่อจากยอดโอนซึ่งค้างมาจากปี 2557 และการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ โดยหุ้น ที่น่าสนใจคือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI สำหรับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม มองว่าบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือERW เป็นหุ้นที่น่าสนใจที่สุด” นายเทิดศักดิ์ กล่าว แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยจะมี ค่าพีอีสูงถึง 18-19 เท่า และปรับตัวขึ้นมากว่า 5% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์บางส่วนอาจจะบอกว่าเป็นระดับที่ใกล้เต็มมูลค่าแล้ว และที่สำคัญนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องเลือกลงทุนเป็นรายตัวมากยิ่งขึ้น เพราะราคาหุ้นของหลายๆ บริษัทได้ปรับตัวขึ้นมาเยอะ พอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ และที่สำคัญก่อนที่จะพิจารณาเลือกหุ้นเป็นรายตัว การเลือกธุรกิจที่เป็นดาวเด่น และมีแนวโน้มจะรุ่ง คงจะช่วยให้งานของนักลงทุน แต่ละรายง่ายขึ้นไม่น้อย
อสังหาฯได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ ส่วนธุรกิจการบินรับอานิสงส์น้ำมันร่วงและ ท่องเที่ยวฟื้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ