มหาดไทยรับลูกคลัง ทบทวนทยอยปรับขึ้น ภาษีโรงเรือน และบำรุงท้องที่ ให้สอดรับกับภาษีที่ดิน คาดเริ่มใช้ปี 60 หวังให้เจ้าของที่ดินปรับตัว ด้านรมช. คลัง เคาะค่าลดหย่อนภาษีที่ดินฯ ที่ 50% ของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท
เล็งชงครม.ไฟเขียว ภายในเดือนก.พ.นี้
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้หารือทำความเข้าใจกับกระทรวงมหาดไทยถึงกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี2560 แล้ว โดยทางกระทรวงมหาดไทย กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎหมายภาษีโรงเรือน และภาษีบำรุงท้องที่ โดยจะทยอยปรับขึ้นอัตราภาษีดังกล่าว ซึ่งจะสอดรับกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัตราใหม่พอดี เพื่อให้ประชาชนเจ้าของที่ดินและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับตัว ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ มุ่งหวังรายได้แต่อย่างใด
“กระทรวงมหาดไทย กำลังพิจารณา ที่จะปรับปรุงกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ซึ่งเป็นภาษีที่เก็บจากมูลค่าที่ดิน อย่างไรก็ตามฐานภาษี ใช้ราคาปานกลางของที่ดินในปี 2521-2524 ซึ่งมีราคาต่ำกว่ามูลค่าในปัจจุบันมาก จึงจะทบทวนฐานราคาปานกลางของที่ดินตามกฎหมายนี้ ใหม่ ในระหว่างที่ กฎหมายภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ยังไม่มีผลบังคับใช้”
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับการกำหนด ค่าลดหย่อนทางภาษี สำหรับภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างนั้น กระทรวงการคลังจะกำหนด ไว้ที่ 50% ของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เจ้าของบ้านและที่ดินทุกคน เข้ามาอยู่ในฐานภาษี
ทั้งนี้ การลดหย่อนดังกล่าว จะช่วยบรรเทาภาระให้กับเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างจะมีผลบังคับใช้ ล่าสุด กระทรวงการคลัง เตรียมนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนก.พ.นี้
สำหรับอัตราภาษีตามกฎหมายนี้ กำหนดเพดานไว้ 3 อัตรา คือ อัตราภาษีที่ดินเพื่อการเกษตร จะเก็บสูงสุดไม่เกิน 0.5%, อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัย จะเก็บ ไม่เกิน 1% ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อการพาณิชย์ เก็บไม่เกิน 4% และที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์ตามสมควร เก็บในอัตรา ไม่เกิน 4% ส่วนอัตราที่จะใช้เก็บจริง จะต่ำกว่าอัตราที่กำหนดไว้เป็นเพดาน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าลดหย่อนจะทำให้เจ้าของบ้านและที่ดินทุกราย เข้ามาอยู่ในฐานภาษีได้แน่นอน สำหรับที่ดินรกร้างที่ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์ตามสมควรนั้น จะกำหนดให้อัตราภาษี เพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 3 ปี แต่สูงสุด จะต้องไม่เกิน 4%
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ