“คอลลิเออร์ส” ประเมินคอนโดเปิดใหม่ปีนี้ 5.5 หมื่นยูนิต เพิ่มขึ้น 10% ราคา 3 ล้านผุดมากสุด หวังเจาะกลุ่มกำลังซื้อสูง เลี่ยงปัญหาหนี้ครัวเรือน-ลูกค้ากู้ไม่ผ่าน
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 มีแนวโน้มฟื้นตัว คาดมีคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เปิดใหม่เพิ่มขึ้น 10% รวม 5.5 หมื่นยูนิต จากปี2557 เปิดตัวอยู่ที่ 5 หมื่นยูนิต จากปัจจัยการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งนี้ สัดส่วนคอนโดเปิดตัวมากที่สุด จะอยู่ในกลุ่มกำลังซื้อสูง ราคาขาย 1 แสนบาทขึ้นไปต่อตร.ม. หรือ ราคาขาย 3 ล้านบาทขึ้นไปต่อยูนิต ส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นของราคาที่ดิน รวมทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ(รีเจกต์) ในปีที่ผ่านมาพบว่าคอนโดราคา 2 ล้านบาทขึ้นไปลูกค้ามีปัญหาจากหนี้ครัวเรือน
สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ จะเน้นพัฒนาในทำเลเดิมๆ
เนื่องจากมีข้อมูลความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยยังเป็นการลงทุนโครงการตามแนว รถไฟฟ้าขนานถนนสุขุมวิท ถือเป็นการลงทุนโครงการใหม่ที่ยังขายได้ ส่วนทำเลใหม่ที่มีโอกาสขยายตัว คือ สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ย่านฝั่งธรบุรี สถานีบางหว้า ตลาดพลู เป็นต้น
“แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ในแง่กำลังซื้อคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก และไม่ทันกับการขยายโครงการใหม่”
นอกจากนี้ธนาคารยังมีความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งอาจกระทบกับกลุ่มตลาดล่าง อีกทั้งต้องรอสรุปตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจหรือจีดีพีไตรมาส4 ปีก่อนว่าไปในทิศทางใด รวมทั้งดูสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีแรกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์หรือไม่ เพราะปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้นคาดว่าอัตราการขายเฉลี่ยปีนี้ จะเพิ่มขึ้นไม่มากหรืออยู่ที่ 60% จากอัตราการเฉลี่ยปีก่อนที่ 56% ลดลงจากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 63% โดยทำเลที่มีอัตราการขายสูงจะอยู่แนว รถไฟฟ้า อาทิ แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิตแบริ่ง ยอดขาย 70% สายสีน้ำเงิน ยอดขาย 75% สายสีม่วง ยอดขาย 70% และพบว่ายอดขายบางสถานีของรถไฟฟ้าทำได้ช้า เช่น สถานี วุฒากาศ มียอดขายเพียง 36% โดยสิ้นปี 2557 เหลือขาย 6,000 ยูนิต ซึ่งจำนวนนี้ เป็นกลุ่มเก็งกำไรประมาณ 15% ปัจจุบันซัพพลายคอนโดในกรุงเทพฯ สิ้นปี 2557 เหลือขายทุกระดับราคาประมาณ 4 หมื่นยูนิต เป็นคอนโดเปิดขายในช่วง 5 ปี (2553-2557) จากจำนวนรวม 177,900 ยูนิต และเมื่อรวมกับยูนิตของกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรที่จะกลับมาขายอีกรอบ ทำให้จำนวนคอนโดเหลือขายมากถึง 6 หมื่นยูนิต โดยซัพพลายเหลือขายมากสุดจะเป็นกลุ่มคอนโดที่มีราคาขายต่ำกว่า 6 หมื่นบาทต่อตร.ม. หรือราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาท แม้ว่าเป็นกลุ่มที่มีฐานลูกค้ามากที่สุดในกรุงเทพฯ แต่ผู้ซื้อบางส่วนติดปัญหาหนี้ครัวเรือน สะท้อนจากยอดรีเจกต์ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 10-15% ของยอดรวม
ซัพพลายเหลือขายมากสุด เป็นกลุ่มราคาต่ำกว่า 6 หมื่นบาทต่อตร.ม.
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ