บิ๊กเนมอสังหาฯ เดินหน้าปรับกลุยทธ์รุกตลาดครึ่งหลังปี 2560 โกลเด้นแลนด์ เน้นสร้างความต่างสินค้าทาวน์โฮม ขยายตลาดสู่ต่างจังหวัด แสนสิริ โฟกัสโครงการร่วมทุนบีทีเอส รุกตลาดต่างชาติต่อเนื่อง มุ่งจับตลาดบน พร้อมส่งมอบนวัตกรรม พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เล็งหาพันธมิตร
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งหลังปี 2560 ยังคงเป็นเรื่องท้าทาย สำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากปัญหาเดิมอย่าง เศรษฐกิจชะลอตัว หนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงอยู่ อีกทั้งในช่วงไตรมาส 4 ยังมีพระราชพิธีสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้ ส่งผลให้บรรดาดีเวลอปเปอร์ต้องปรับกลยุทธ์ในการรุกตลาด
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับยอดขาย 11,000 ล้านบาท ที่ทำได้เกินเป้าในครึ่งปีแรก 6,600 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมาย 67% จึงได้ปรับเป้าขายเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง จากเดิมทั้งปี 18,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท หรือ 11% โดยยังคงเป้ารับรู้รายได้เดิม 12,000 ล้านบาท
สำหรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีจากเดิม 21 โครงการได้มีการปรับลดลงเหลือ 15 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 13 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ และบ้านเดี่ยว 1 โครงการ โดยเป็นโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง 10 โครงการ เหตุผลมาจากยอดขายในครึ่งปีแรกทำได้เกินเป้าหมาย และบางโครงการยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เพราะติดปัญหาผู้พักอาศัยเดิมยังไม่ย้ายออก
การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทจะทำผ่าน 6 กลยุทธ์หลักประกอบด้วย 1. เปิดอาณาจักร British Avenue ย่านเกษตรฯนวมินทร์ เนื้อที่รวม 120 ไร่ จำนวนรวม 950 หน่วย มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 โครงการ ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ในระดับราคาต่างๆ กัน 2.เน้นทำเลติดรถไฟฟ้าทดแทนคอนโดฯ กลยุทธ์เดิมที่ยังทำให้ทาวน์โฮมของโกลเด้นแลนด์ ได้รับความนิยม ก็คือ “ยิ่งพิเศษ ชีวิตยิ่งมีความสุข” บ้านที่มีฟังก์ชันเหนือกว่า สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทำเลดี ราคาไม่แพง 3.นวัตกรรมบ้านแฝด ราคา 4-6 ล้านบาท ทดแทนบ้านในเมือง ราคา 7-10 ล้านบาท 4.ขยายทาวน์โฮมต่างจังหวัดมากขึ้น 5.บ้านเดี่ยวโฉมใหม่ระดับราคา 20-40 ล้านบาท ทำเลใกล้เมือง และ 6.เพิ่มเซ็กเมนต์ตํ่ากว่า 2 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับแนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะดำเนินการตาม 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ มี 1.พัฒนาโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ซึ่งมีแผนจะเปิดอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมองหาพันธมิตรธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในอนาคตอีกด้วย
2. การรุกตลาดระดับบน โดยเล็งเปิดตัว บ้านแสนสิริ ซึ่งเป็นโครงการระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ของแบรนด์บ้านเดี่ยว ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ 3. การเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ 4. ต่อยอดการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “HAUS” คอนโด มิเนียมสไตล์รีสอรต์ และ 5. การเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ด้านพร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่การกระจายความเสี่ยง โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่การพัฒนาบ้านและคอนโดมิเนียม แต่ยังอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายออกไปได้ในทันทีหลังจากพัฒนาแล้วเสร็จ โดยยังไม่สามารถให้รายละเอียดของธุรกิจดังกล่าวได้ ส่วนการขายหุ้นทั้งหมดในสัดส่วน 65% ที่บริษัทถือในโครงการดาราฮาร์เบอร์ ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่า 291.75 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะสามารถบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2560 ราว 130 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้มาจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทและนำไปลงทุนในโครงการอื่นๆต่อไป หาพันธมิตรเพิ่ม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,282 วันที่ 27 – 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ