May 1, 2024

เบอร์เกอร์คิง ส่ง “เบอร์เกอร์หมูกระทะ” ตีตลาดผู้บริโภควัยรุ่น-คนทำงาน

เบอร์เกอร์คิง ต่อยอดกลยุทธ์ไทยซีรีส์ ส่งแคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” ชู “เบอร์เกอร์หมูกระทะ” ตีตลาดผู้บริโภควัยรุ่น-คนทำงาน พร้อมพัฒนาเมนูยอดฮิตอย่าง “ไก่ทอดหาดใหญ่” ด้วยการเพิ่มปริมาณหอมเจียวมากขึ้นถึง 3 เท่า โดยตั้งเป้าแคมเปญนี้จะสามารถขยายฐานผู้บริโภคคนไทยได้เพิ่มขึ้นถึง 25%

วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director และ คุณชนินทร์ นาคะรัตนากร Senior Digital Marketing Manager บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 เบอร์เกอร์คิงยังคงตั้งเป้ามุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนแนวหน้าของประเทศ ที่สามารถ
ตอบโจทย์ผู้บริโภคครอบคลุม

ส่งเบอร์เกอร์หมูกระทะ ชิงฐานลูกค้า

โดยไฮไลต์ของปี 2567 นี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการทำตลาด เพื่อเจาะฐานผู้บริโภคคนไทยกลุ่มใหม่ ผ่านกลยุทธ์การตลาด “เบอร์เกอร์คิง ไทย ซีรีส์” ด้วยการส่งแคมเปญใหม่ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” ที่เน้นนำเสนอเมนูรสชาติถูกปากคนไทยด้วยการเปิดตัว “เบอร์เกอร์หมูกระทะ” เมนูเบอร์เกอร์ใหม่ที่พัฒนามาจากอินไซด์ของคนไทยที่ชื่นชอบการกินหมูกระทะ โดยปริมาณการทานใน 1 เดือน จะอยู่ประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน โดยส่วนใหญ่มักจะมาทานช่วงวันหวยออก

ซึ่งก็ถือว่ามีดีมานด์ที่น่าสนใจ และตรงกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่ ประกอบกับเบอร์เกอร์คิง มีแนวคิดในการพัฒนาเมนูให้เข้ากับกระแสเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอยู่แล้ว จึงเกิดเป็นการต่อยอดเมนูใหม่โดยนำหมูกระทะมาอยู่ในรูปแบบเบอร์เกอร์

โดยจุดเด่นของเมนูใหม่จะอยู่ที่ชิ้นหมูย่างชิ้นโต ที่นำไปย่างด้วยเตาไฟอันเป็นซิกเนเจอร์ของเบอร์เกอร์คิง ที่สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นเนื้อวัวแทนได้ อีกทั้งยังมาพร้อมซอสสูตรพิเศษที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานเมนูหมูกระทะจากหน้าเตาในบรรยากาศสไตล์ฟิวชั่น โดยมีให้เลือก 2 เมนู ที่จะมาตอบโจทย์ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ได้แก่

  • ซิงเกิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 89 บาท
  • ดับเบิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 149 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษข้าวหมูย่างซอสหมูกระทะ ที่มาในราคาเพียง 79 บาท เพื่อเป็นเมนูทางเลือกเพิ่มเติม และเร็ว ๆ นี้ก็จะมีเมนูของหวานลอนช์ออกมาเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หลากหลายรูปแบบให้ผู้บริโภคเพื่อสร้างการจดจำ ทั้งนี้ สำหรับเมนูดังกล่าวจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2567 จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านเบอร์เกอร์คิงทุกสาขา (ยกเว้นสาขาท่าอากาศยานและสาขาท่องเที่ยว)

อัพหอมเจียว “ไก่ทอดหาดใหญ่”

นายเจริญชัยกล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ไทยซีรีส์ของเบอร์เกอร์คิงที่ผ่านมา บริษัทก็ได้มีการนำเสนอเมนูรสชาติถูกปากคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เมนูโจ๊ก เมนูไก่ทอดหาดใหญ่ หรือเมนูของหวานอย่างพายขนมครก โดยในปีนี้ บริษัทจะต่อยอดเมนูสุดฮิตอย่าง ไก่ทอดหาดใหญ่ ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มปริมาณหอมเจียวมากขึ้นถึง 3 เท่า ในราคา 149 บาท

ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยในไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมาแบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ได้ถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 45% ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อหลากรูปแบบ อาทิ

  • การเปิดตัวเสื้อสงกรานต์ที่นำไก่ทอดหาดใหญ่มาเรียงร้อยในรูปแบบของเสื้อลายดอก
  • การทำสื่อเต้นท์การ์ดให้กับร้านอาหารท้องถิ่นที่หยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์
  • การเปิดตัวรถกุ๊กกุ๊กไก่ทอดหาดใหญ่ ที่ช่วยสร้างการรับรู้ และกระตุ้นความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวาง
  • การมอบส่วนลดในเมนูไก่ทอดหาดใหญ่สำหรับผู้ที่เดินทางโดยสารสายการบินทั้งในและต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาอีกด้วย

“ซึ่งจากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” ทำให้เบอร์เกอร์คิงมีฐานผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 10% จำนวนการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งแคมเปญนี้จะเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่จะมาช่วยต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 สามารถขยายฐานผู้บริโภคคนไทย 25%”

เพิ่มบริการ-พัฒนาเมนู หวังก้าวขึ้นเบอร์ 1

ในขณะเดียวกัน เบอร์เกอร์คิง จะไม่หยุดรังสรรค์แคมเปญการตลาดใหม่ ๆ ตลอดทั้งปี โดยในปีนี้คาดว่าจะมีคีย์แคมเปญอยู่ประมาณไตรมาสละ 1 แคมเปญ และแคมเปญย่อยๆ อีกหลากหลายแคมเปญ รวมถึงจะยังคงมุ่งเดินหน้าพัฒนาและคิดค้นเมนูประจำเทศกาล ตลอดจนการบริการ ที่ปัจจุบันในบางสาขาก็ได้มีการเพิ่มบริการตู้คีออส เพื่อให้ลูกค้าใช้ง่ายสะดวกมากยิ่งขึ้น

ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนภาพ เบอร์เกอร์คิง ในฐานะผู้นำตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนแนวหน้าของไทย และเจ้าแห่งการสร้างกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ ที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่มคนไทยและคนต่างชาติอย่างแท้จริง

“โดยเราได้วางเป้าหมายในอนาคตไว้ว่าอยากจะเห็นเบอร์เกอร์คิงก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเบอร์เกอร์ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 9,500 ล้านบาท หรือเติบโต 8.5% ซึ่งที่ผ่านมาเบอร์เกอร์คิงโตกว่าตลาดอยู่ที่ระดับดับเบิลดิจิต” คุณเจริญชัยและคุณชนินทร์กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าคนไทยของเบอร์เกอร์คิงอยู่ที่ 60% และนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 40% โดยส่วนใหญ่จะมียอดใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ประมาณ 300 บาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 290 บาทต่อบิล

สำหรับในส่วนของจำนวนสาขาปัจจุบันจะมีอยู่ประมาณ 123 สาขา โดย 70% อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และอีก 30% จะอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งในปีนี้ก็มีแผนที่จะเดินหน้าขยายสาขาไปในเขตพื้นที่ที่ยังไม่เคยไป บนทำเลที่มีศักยภาพ

อ่านข่าวต้นฉบับ: เบอร์เกอร์คิง ส่ง “เบอร์เกอร์หมูกระทะ” ตีตลาดผู้บริโภควัยรุ่น-คนทำงาน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่…เบอร์เกอร์คิง ส่ง “เบอร์เกอร์หมูกระทะ” ตีตลาดผู้บริโภควัยรุ่น-คนทำงาน
ที่มา : Prachachat.net/marketing

Leave a Reply

Your email address will not be published.