April 26, 2024

สมอ.จับสินค้าด้อยคุณภาพ 6 เดือน เกือบ 200 เรื่อง เสียหายกว่า 220 ล้าน

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดแผน 4 ภารกิจครึ่งหลังปี 2567 โชว์ผลงาน 6 เดือนแรกกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพ 220 ล้านบาท เตรียมออกมาตรฐานสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมอีกกว่า 500 เรื่อง

วันที่ 26 เมษายน 2567 นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่าแผนงานครึ่งหลังปี 2567 สมอ.ยังคงเน้น 3 เรื่องหลัก คือ 1.การจับกุมสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน 2.การกำหนดมาตรฐาน 3.การออกใบอนุญาต 4.การมาตรฐานระหว่างประเทศ ซึ่งทุกภารกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ และคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องการกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากท้องตลาด ที่หนักที่สุดคือสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นวงกว้าง

วันชัย พนมชัย
วันชัย พนมชัย

และในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567) ได้ตรวจจับผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย ลักลอบผลิตและนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มี มอก.จาก การจำหน่ายสินค้าที่อยู่ในข่ายการควบคุมของ สมอ. จำนวน 144 รายการ พบมีถึงจำนวน 191 ราย ทำการยึดอายัดสินค้าเป็นมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.เหล็กและวัสดุก่อสร้าง 87.70 ล้านบาท 2.ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 73.23 ล้านบาท และ 3.ยานยนต์ 54.09 ล้านบาท

สำหรับการกำหนดมาตรฐาน สมอ. ตั้งเป้ากำหนดมาตรฐานในปีนี้ 1,000 เรื่อง ครึ่งปีแรกกำหนดมาตรฐานไปแล้ว 469 เรื่อง เช่น เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจ ฝารองนั่งสุขภัณฑ์ไฟฟ้า หลอดฟลูออเรสเซนส์สำหรับเปลี่ยนสีผิวเป็นสีแทน และมาตรฐานวิธีทดสอบยานยนต์ EV เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้ประกาศให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นสินค้าควบคุมเพิ่มอีก 24 ผลิตภัณฑ์ เช่น บันไดเลื่อน ลิฟต์ คาร์ซีต แบตเตอรี่รถ EV ภาชนะพลาสติก และภาชนะสแตนเลส เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศใช้มาตรฐานด้านการท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนนโยบาย Soft Power อีกจำนวน 6 มาตรฐาน ได้แก่ 1.มาตรฐานการเยี่ยมชมสถานที่ทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ 2.มาตรฐานการดำเนินงานเกี่ยวกับชายหาด 3.มาตรฐานโรงแรมย้อนยุค 4.มาตรฐานร้านอาหารแบบดั้งเดิม 5.มาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และ 6.มาตรฐานการบริการนักท่องเที่ยวเพื่อสาธารณะประโยชน์โดยหน่วยงานคุ้มครองพื้นที่คุ้มครองธรรมชาติ

พร้อมทั้งทบทวนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ที่เชื่อมโยงกับนโยบาย Soft Power จำนวน 10 มาตรฐาน เช่น ข้าวเกรียบกรือโป๊ะ สุรากลั่นชุมชน ไวน์ผลไม้ เป็นต้น และได้จัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อรองรับการขับเคลื่อนโยบายฮาลาล จำนวน 3 มาตรฐาน คือ 1.แยม เยลลี่ และมาร์มาเลด 2.เส้นหมี่ และ 3.โยเกิร์ตกรอบ

ส่วนการออกใบอนุญาต สมอ. ได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการออกใบอนุญาต โดยผลงานครึ่งปีงบประมาณแรกได้ออกใบอนุญาต มอก. จำนวน 7,454 ฉบับ ใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน จำนวน 1,597 ฉบับ ใบรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส จำนวน 132 ฉบับ และใบรับรองระบบงาน จำนวน 212 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 9,395 ฉบับ

และการมาตรฐานระหว่างประเทศ สมอ. ได้เข้าร่วมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) และเจรจาจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) ด้านการมาตรฐานกับประเทศต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการของไทย รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก

อาทิ 1.การเจรจาทำ FTA กับศรีลังกา ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังศรีลังกา ปีละกว่า 10,800 ล้านบาท 2.การเจรจาจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) สมอ.-BMSI (ไต้หวัน) เพื่อให้ไต้หวันยอมรับผลทดสอบและรับรอง ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการตรวจสอบสินค้า เป็นการช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าไปยังไต้หวัน ในปี 2566 กว่า 13,000 ล้านบาท

3.การเจรจากับอินเดียให้เลื่อนการบังคับใช้กฎระเบียบควบคุมคุณภาพสำหรับสินค้าแผ่นไม้ของอินเดีย ทำให้ผู้ประกอบการไทยรักษาตลาดส่งออกสินค้าไปยังอินเดียปีละกว่า 2,700 ล้านบาท และ 4.การเจรจาร่างกฎระเบียบว่าด้วยมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานสำหรับรถยนต์ใหม่ของออสเตรเลีย โดยขอให้ออสเตรเลียพิจารณากำหนดเกณฑ์การปล่อยก๊าซ CO2 อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีเวลาในการเตรียมตัว

“6 เดือนหลังจากนี้ สมอ. จะเร่งรัดการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพื่อเสริมแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดให้มากยิ่งขึ้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน”

อ่านข่าวต้นฉบับ: สมอ.จับสินค้าด้อยคุณภาพ 6 เดือน เกือบ 200 เรื่อง เสียหายกว่า 220 ล้าน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่…สมอ.จับสินค้าด้อยคุณภาพ 6 เดือน เกือบ 200 เรื่อง เสียหายกว่า 220 ล้าน
ที่มา : Prachachat.net/economy

Leave a Reply

Your email address will not be published.