นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50 ซึ่งหากค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางมีนัยว่า ผู้ประกอบการจะมองว่าเป็นภาวะที่ดี
โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประจำไตรมาส 4/57 พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าเท่ากับ 55.4 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่มีค่าเท่ากับ 54.5 และเมื่อแยกประเภทผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed) มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นสูงกว่าผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน (Non-Listed) มาก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 60.1 ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 50.7 ซึ่งสูงกว่าค่ากลาง (ค่ากลางเท่ากับ 50)แสดงให้เห็นว่าทั้งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนยังมีความเชื่อมั่นที่ดี
สำหรับผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 4/57 มีผู้ประกอบการตอบแบบสอบถามจำนวน 166 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 30 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 136 บริษัท ในการคำนวณดัชนีรวมจะให้น้ำหนักบริษัทจดทะเบียนและบริษัทไม่จดทะเบียน 50:50 เท่ากัน
นายสัมมา กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการโดยภาพรวมมีค่าความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในด้านการลงทุน การจ้างงาน และต้นทุนประกอบการ แต่ค่าความเชื่อมั่นของผลประกอบการและยอดขายลดลง แม้จะยังอยู่ในระดับดี ขณะที่การเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ โดยภาพรวมทั่วประเทศลดลง แม้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะกระเตื้องขึ้น
ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำดัชนีราคาห้องชุดรายครึ่งปี โดยเริ่มจัดทำครั้งแรกในงวดประจำครึ่งแรกปี 2553 โดยใช้ราคาปี 2552 เป็นปีฐาน แต่ในการจัดทำดัชนีตั้งแต่งวดครึ่งหลังปี 2556ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับปีฐานเป็นปี 2555 และสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ
สำหรับดัชนีราคาบ้านเดี่ยว และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เริ่มจัดทำเป็นครั้งแรกในงวดประจำครึ่งแรกปี 2554 โดยใช้ราคาปี 2552 เป็นปีฐาน แต่ในการจัดทำดัชนีตั้งแต่งวดครึ่งแรกปี 2557 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับปีฐานเป็นปี 2555 ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำดัชนีราคาห้องชุด ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ เป็นตัวชี้วัดความเคลื่อนไหวของราคาห้องชุด ราคาบ้านเดี่ยวและราคาทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ระหว่างขาย และสะท้อนความเป็นจริงได้ใกล้เคียงกับราคาในตลาดปัจจุบัน
ส่วนดัชนีราคาห้องชุดรวมทุกระดับราคา ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2556, ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 3.1%เมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2556 และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น3.7% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2556
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น