ก่อนขึ้นปีใหม่ 2558 ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบแผนปฏิบัติใน 5 เขตเศรษฐกิจเป้าหมายแรกที่จะผลักดันบรรลุในปี 2558
ในด้านที่ตั้ง ประกอบด้วย
1.จ.ตาก พื้นที่ 14 ตำบลใน 3 อำเภอ พื้นที่ประมาณ 1,419 ตร.กม. (886,875 ไร่) ดังนี้ 1.1 อ.แม่สอด รวม 8 ตำบล ได้แก่ ต.แม่สอด ต.แม่ตาว ต.ท่าสายลวด ต.พระธาตุฝาแดง ต.แม่กาษา ต.แม่ปะ ต.มหาวัน 1.2 อ.พบพระ รวม 3 ตำบล ได้แก่ ต.พบพระ ต.ช่องแคบ ต.วาเลย์ 1.3 อ.แม่ระมาด รวม 3 ตำบล ได้แก่ ต.แม่จะเรา ต.แม่ระมาด ต.ขะเนจื้อ
2.จ.มุกดาหาร พื้นที่ 11 ตำบลใน 3 อำเภอ รวม 578.5 ตร.กม. (361,542 ไร่) ดังนี้ 2.1 อ.เมืองมุกดาหาร รวม 5 ตำบล ได้แก่ ต.ศรีบุญเรือง ต.มุกดาหาร ต.บางทรายใหญ่ ต.คำอาฮาน ต.นาสีนวน 2.2 อ.หว้านใหญ่ รวม 4 ตำบล ได้แก่ ต.บางทรายน้อย ต.ชะโนด ต.หว้านใหญ่ ต.บ่งขาม 2.2 อ.ดอนตาล รวม 2 ตำบล ได้แก่ ต.โพธิ์ไทร ต.ดอนตาล
3.จ.สระแก้ว พื้นที่ 4 ตำบลใน 2 อำเภอ รวม 332 ตร.กม. (207,500 ไร่) ดังนี้ 3.1 อรัญประเทศ รวม 3 ตำบล พื้นที่ 247 ตร.กม. (154,375 ไร่) ได้แก่ ต.บ้านด่าน ต.ป่าไร่ ต.ท่าข้าม 3.2 อ.วัฒนานคร 1 ตำบล พื้นที่ 85 ตร.กม. (53,125 ไร่) ได้แก่ ต.ผักขะ
4.จ.สงขลา พื้นที่ 4 ตำบลของ อ.สะเดา รวม 552.3 ตร.กม. (345,185 ไร่) ได้แก่ ต.สะเดา ต.สำนักขาม ต.สำนักแต้ว ต.ปาดังเบซาร์
5.จ.ตราด พื้นที่ 3 ตำบลของ อ.คลองใหญ่ทั้งอำเภอ รวม 50.2 ตร.กม. (31,375 ไร่) ได้แก่ ต.คลองใหญ่ ต.หาดเล็ก ต.ไม้รูด
พร้อมกันนี้ กนพ.ยังได้เห็นชอบการกำหนดสิทธิประโยชน์และมาตรการทางการเงิน สำหรับผู้ลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ระดับสูงสุด ใกล้เคียงกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ตามมติคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) โดยกำหนดไว้ ดังนี้
ด้านสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน จะให้สิทธิประโยชน์เฉพาะโครงการใหม่ ซึ่งน้อยกว่าการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ให้สิทธิประโยชน์ทั้งโครงการใหม่และโครงการเดิม เพราะมีความเสี่ยงมากกว่า
ด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี กรณีเป็นกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 20% เหลือ 10% เป็นเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชีทำการของกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ส่วนมาตรการทางการเงิน รัฐจะจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน วงเงินรายละ 1-20 ล้านบาท โดยเปิดโอกาสให้กิจการทุกประเภทสามารถยื่นให้สิทธิประโยชน์ได้ โดยมองเห็นว่าธุรกิจที่จะให้ความสนใจลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะเป็นกลุ่มสินค้าที่ประเทศในอาเซียนมีความต้องการสูง และธุรกิจในประเทศที่ 3 ที่เล็งเปิดตลาดในอาเซียน เหมือนประเทศจีนที่สั่งการให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษในทุกมณฑล
ในทางปฏิบัติ ในระยะแรก จะใช้พื้นที่ศูนย์ดำรงธรรม ทำหน้าที่การให้ข้อมูลด้านการลงทุนและเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ในปัจจุบัน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแปลงงบประมาณปี 2558 สนับสุนน ซึ่งกำหนดให้เปิดบริการโดยเร็วภายใน 1 มกราคม 2558
ด้านแรงงาน เปิดกว้างให้ตลาดแรงงานเต็มที่ อนุมัติให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือได้ แต่ภายในลักษณะข้ามแดนไปกลับ และให้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน เพื่อดูแลด้านการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้าไทย ตรวจสุขภาพ ประกันสุขภาพ และคุ้มครองแรงงาน รวมถึง จัดทำการฝึกอบรมแรงงาน
ในมติ กนพ.ยังให้เร่งรัดงานตามนโยบายด้านคมนาคมขนส่ง เน้นแก้ปัญหาสำคัญในพื้นที่ในเรื่องเร่งด่วนสุดก่อน คือ สร้างสะพานมิตรภาพไทยพม่าแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความแออัดบริเวณด่านชายแดน และเพิ่มการขนส่งระหว่างไทย-พม่า เร่งรัดการปรับปรุงสนามบิน เพื่อรองรับจำนวนคนและปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
เร่งพัฒนาทางหลวงพิเศษ อ.หาดใหญ่อ.สะเดา เร่งพัฒนาสนามบินที่มุกดาหาร เร่งพัฒนาท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 และเร่งพัฒนาท่าเรือปากบารา
สิ่งเหล่านี้ต้องเห็นเป็นรูปธรรม เกิดการปฏิบัติจริงจัง ภายในปี 2558-2559
และยังไม่ทันที่เฟสแรกจะเป็นรูปเป็นร่าง รัฐบาลก็สัญญาว่า ไม่เกินกลางปี 2558 จะประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจเฟส 2 อีก 7 เขตเศรษฐกิจพิเศษ
รวมเป็น 12 เขตเศรษฐกิจพิเศษ
เบื้องต้นพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ 1.จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่ ต.บ้านหนองสองตอนกับบ้านหนองจอก พื้นที่ 2,000 ไร่ 2.จ.เชียงราย ตั้งอยู่ ต.สถาน อ.เชียงของ อยู่ติดกับถนนเชื่อมกับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย พื้นที่ 500 ไร่ 3.จ.เชียงราย ตั้งอยู่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน บริเวณท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ติดแม่น้ำโขงและถนนสาย 1129 พื้นที่ 752 ไร่
4.จ.เชียงราย อยู่พื้นที่ อ.แม่สาย มีข้อจำกัดด้านตะวันตกของเมืองแม่สายเป็นภูเขา จึงเหลือพื้นที่ให้พัฒนาบริเวณด้านตะวันออกของเมือง พื้นที่ 500 ไร่ 5.จ.หนองคาย ตั้งอยู่พื้นที่บริเวณ อ.เมือง กับ อ.สระใคร ทางตอนใต้ของเมืองหนองคาย พื้นที่ 3,300 ไร่ 6.จ.นครพนม ตั้งอยู่บริเวณบ้านสำราญเหนือ ต.อาจสามารถ กับตอนบน อ.เมืองนครพนม ใกล้ด่านชายแดนนครพนม ติดถนนสาย 212 พื้นที่ 2,200 ไร่ และ 7.จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ที่ ต.นานาค อ.ตากใบ อยู่บนถนนสาย 4057 ห่าง อ.ตากใบ 15 กิโลเมตร พื้นที่ 2,500 ไร่
ไม่เพียงแค่นั้น ตามเป้าหมายของรัฐบาลแล้ว มีแนวทางผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 20 เขต ซึ่งคงไม่ยากเกินไป
ทั้งนี้เพราะไทยมีพื้นที่ที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 31 จังหวัด และเมื่อพิจารณาจากความแออัดของด่านการค้าชายแดน ที่ปัจจุบันมีด่านค้าชายแดน 91 จุด แบ่งเป็นจุดผ่านแดนแบบถาวร 38 จุด ส่วนอีก 53 จุด ยังเป็นจุดผ่อนปรนนั้น พบว่าน่าเป็นไปได้
นอกจากนี้ที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้พยายามผลักดันให้รัฐบาลเจรจาเปิดเป็นด่านการค้าถาวรทั้งหมด แสดงว่าบริเวณดังกล่าวมีอนาคตทางการค้าขาย
ความสำคัญของเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือดึงดูดการลงทุน เพิ่มการค้า ทั้งธุรกิจในประเทศและประเทศจากอาเซียนด้วยกัน หลังเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่ชนบท
เป็นเครื่องมือในการยกระดับความเจริญระดับชุมชน ระดับท้องถิ่น ลดความแออัดของธุรกิจในส่วนกลาง ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าแหล่งรวมธุรกิจจากนานาชาติ
และในระยะยาวจะมีบทบาทต่อการพยุงธุรกิจและภาวะการส่งออกของไทยให้ยั่งยืนด้วย
โดยมีผลการศึกษายืนยันว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษ หากสามารถผลักดันและจูงใจให้ภาคเอกชนเข้าลงทุนครบทุกพื้นที่เป้าหมายภายใน 2 ปี จะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน ไม่ต่ำกว่าปีละ 18-20% ยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอีกปีละ 5-7%
ทั้งหมดนี้จะสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายได้ ทุกฝ่ายลงความเห็นเดียวกัน คือรัฐบาลต้องไม่ช้ากับการเบิกจ่ายงบประมาณ
รัฐบาลต้องยอมทุ่มงบประมาณ 1-2 แสนล้านบาทต่อปีในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก และต้องผลักดันให้ทุกอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เป็นแค่พิมพ์เขียวที่วางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ หรือเก็บเอาไว้ในลิ้นชักเหมือนอีกหลายโครงการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน