สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านรับโล่ง ใจหลังรัฐบาลงัด ม.44 ชะลอใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว “พิชิต อรุณพัลลภ” จี้รัฐก่อนออกกฎหมายมาบังคับควร พิจารณารอบครอบ มองผลกระทบรอบด้าน ระบุปัญหาแรงงานภาคการก่อสร้างเ ข้าขั้นวิกฤติหนักถึงขั้นแย่งคน งานต่างด้าวในแต่ละไซต์งาน
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่าง พ.ศ.2560 และล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 รัฐบาลได้มีคำสั่งตามมาตรา 44 ได้เข้าชะลอหรือเลื่อนการบังคับ ใช้บางมาตราที่มีบทลงโทษรุนแรงไปก่อนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และสะท้อนได้ว่าภาครัฐได้เข้าใจ ความเดือดร้อนของทุกฝ่ายพร้อมกับหาแนวทางดำเนินการไม่ให้ทุกฝ่ายได้รับความเดือดร้อน
“เห็นด้วยที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ในการบังคับใช้กฎหมายแรงงานต่าง ด้าวอย่างจริงจังหรือมองในประเด็ นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ แต่ก่อนที่รัฐบาลจะปรับระดับควา มรุนแรงในการบังคับใช้กฎหมาย อยากให้รัฐบาลพิจารณาปัญหาในการ ทำ MOU ที่ผ่านมารวมถึงผลกระทบให้ รอบด้านก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงซึ่งภาคเอกชนก็มีความพยายามที่จะทำให้ถูกกฎหมายอยู่ แล้ว” นายพิชิต กล่าวพร้อมกับกล่าวให้ความเห็นด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลยังขาดความพร้อม ด้านประสิทธิภาพในการบริหารจัดก ารและสนับสนุนการทำ MOU ซึ่งทำให้เกิดช่องโหว่ในการปฏิบัติจริง
ส่วนผลกระทบต่อภาคธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น ผู้ประกอบการรับจ้างก่อสร้างได้ รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เ ป็น เอสเอ็มอี (SME) ซึ่งมีซับคอนแทรคที่ต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวเป็นส่วนประกอบสำคั ญและกลุ่มนี้มีศักยภาพจำกัดทั้ งเวลาและเงินทุนอีกทั้ งแรงงานในกลุ่มก่อสร้างเป็นแรงงานระบบเปิด คือมีการเคลื่อนย้ายถ่ายเทตลอดเวลา กล่าวคือ เมื่อซับคอนแทรคบางรายที่มีข้อจำกัดแล้วได้รับผลกระทบเขาก็ไม่ สามารถที่จะรับงานได้ก็กระทบทั้งต่อบริษัทรับสร้างบ้านและผู้บริโภค
นายพิชิต ยังกล่าวด้วยว่าปัจจุบันปัญหาแรงงานพบว่า ในภาคอสังหาริมทรัพย์รวมถึงธุรกิ จก่อสร้างกำลังประสบปัญหาใหญ่ เข้าขั้นวิกฤติ มีภาวะขาดแคลนแรงงานในทุกกลุ่ม ทั้งระดับหัวหน้าคุมงาน แรงงานระดับช่างฝีมือ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แม้กระทั้งแรงงานที่ไร้ฝีมือยัง ขาดแคลน และหากการก่อสร้างในโครงการเมกะ โปรเจกต์ต่างๆทั้งโครงการรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ที่ได้รับอนุมัติได้ เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อไหร่ความต้องการพึ่งพาแรงงานนั้นจะสูงมาก ซึ่งอาจถึงขึ้นต้องแย่งตัวแรงงานต่างด้าวที่ประจำในแต่ละไซต์งาน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ