นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยหลังได้เข้ามารับตำแหน่งใหม่ว่า โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐในซอยพหลโยธิน 11 ยังคงต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการ ภายใต้กฎระเบียบของทางราชการ โดยตามขอบเขตงาน (ระบุในทีโออาร์) กำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลจะต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานผลกระทบด้านจราจร ให้แล้วเสร็จก่อน รวมถึงต้องให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) พิจารณาด้วย
อย่างไรก็ดี คตร.ได้พิจารณารายละเอียดโครงการแล้ว และมีการส่งหนังสือกลับมายังกรม โดยแจ้งให้ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบถามกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถึงผลกระทบด้านจราจร ในฐานะหน่วยงานในท้องที่ ทั้งนี้ ความเห็นของ คตร.ไม่ใช่การอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ดำเนินการ แต่จะเสนอให้ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้ถูกต้อง
“ตอนนี้ศึกษารายงานผลกระทบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องดูว่าผู้ที่ชนะการประมูลจะเห็นว่าอย่างไร หากรายงาน EIA ออกมากำหนดให้ต้องลดจำนวนห้อง หรือต้องทำที่จอดรถเพิ่ม จะรับได้หรือไม่” นายพชรกล่าว
ทั้งนี้ โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ในซอยพหลโยธิน 11 นี้ เดิมกำหนดสร้างเป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 350 ยูนิต ยูนิตละ 28 ตร.ม. จอดรถได้ 118 คัน ขณะที่ผู้ชนะประมูลคือ บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งต่อมาได้โอนสิทธิการบริหารจัดการโครงการ ทั้งงานก่อสร้างและบริหารโครงการไปให้ บริษัท จูโน่ ปาร์ค จำกัด ทำหน้าที่แทน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ