“เดอะมอลล์”จัดหนัก 5 กลยุทธ์ตลาด กระตุ้นยอดขายศูนย์การค้า รับไลฟ์สไตล์นักช็อปเปลี่ยนโลกดิจิตอลแรงสุดขั้ว ธุรกิจรีเทลแข่งเดือด คาดทั้งปีภาพรวมเติบโต 5%นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปจำกัด ผู้บริหาร “เดอะ มอลล์ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์” เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายของบริษัทจะให้ความสำคัญกับศูนย์การค้าเดอะ มอลล์หรือเดอะมอลล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์มากขึ้นเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกดิจิตอลรวมทั้งการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก โดยจะปรับกลยุทธ์การทำตลาดของเดอะ มอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ผ่านกลยุทธ์ Customer Centric Segmentation และOne-to-One Personalization การทำกิจกรรมและโปรโมชันให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าแต่ละไลฟ์สไตล์ ลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์รวมทั้งการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
โดยกลยุทธ์การตลาดประกอบไปด้วย Online Digital การเข้าสู่ยุคการตลาด 4.0 ที่ใช้ดิจิตอลเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการช็อปปิ้ง ผ่าน 3D ได้แก่ Data การศึกษาพฤติกรรมฐานข้อมูลลูกค้า และนำมาสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าแต่ละเจเนอเรชัน โดยเฉพาะเจเนอเรชัน ซี (Gen-Z) โดยในปีที่ผ่านมาทางเดอะมอลล์กรุ๊ป ลงทุนพัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิกซอฟต์แวร์รองรับกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกบิ๊ก ดาต้านำข้อมูลการจับจ่ายช็อปซื้อสินค้าผ่านบัตร MCard เพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดในแต่ละช่วงชีวิต (Life Stage) ไลฟ์สไตล์พฤติกรรมการซื้อ ช่วงเวลา แบรนด์และสินค้าที่ต้องการ
Digital เดอะมอลล์ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการวางแผนระบบเครือข่าย ให้บริการ Free Wi-Fi ให้ครอบคลุม ทั้งพื้นที่ห้างและศูนย์การค้าโดยเริ่มจาก เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์,เดอะมอลล์ โคราช, บลูพอร์ตหัวหิน และขยายต่อไปในสาขาอื่นๆ โดยนำข้อมูล Digital footprint ที่ได้มาศึกษพฤติกรรมการเดินภายในศูนย์การค้า วางแผนจัดกิจกรรม การจัดพื้นที่ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Delight การตลาดดิจิตอลเชิงลึกทั้ง Social Media Analytic Platform, Marketing Automation System มุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างด้วย Personalized Offers ไม่ว่าจะเป็นการส่ง SMS Email หรือ Mobile App แจ้งโปรโมชันหาลูกค้าในแต่ละรายตามแต่พฤติกรรมของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้โดนใจและเข้าถึงมากที่สุด
กลยุทธ์ Innovative CRM ผ่านบัตร MCard และ Citi M ปัจจุบัน เดอะมอลล์ มีลูกค้าที่เป็นสมาชิก บัตร MCard กว่า3.5 ล้านคน โดย MCard ได้นำเรื่องเทคโนโลยีมาใช้และพัฒนาระบบต่างๆ โดยเฉพาะการทำการค้าปลีกในยุค 4.0 คือ Beyond Shopping Experience เป็น The Really Inner Experience โดยมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลูกค้าแต่ละคนก็จะมีความต้องการที่แตกต่างไม่เหมือนกัน จึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเรื่องของ Data Mining เพื่อรู้ว่าต้องสื่อสารกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้เข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ Collaboration ร่วมกับพันธมิตรผนึกกำลังทำแคมเปญและจัดกิจกรรมทางการตลาด อาทิ กลุ่มบัตรเครดิต,กลุ่มประกันชีวิต, กลุ่มเครือข่ายมือถือ, กลุ่มสายการบิน, กลุ่มยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งต่างก็มีกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายคลึงกับเดอะมอลล์ กลยุทธ์ Dining and Lifestyle Lead Marketing การอัพเทรนด์ใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ทั้งเรื่องของอาหาร แฟชั่น ฯลฯและกลยุทธ์ International Events การนำเสนออีเวนต์ระดับโลกอาทิ GOT7 THAILAND TOUR “NESTIVAL” ครั้งแรกในภูมิภาคอีสาน ที่เดอะมอลล์โคราช, งานAVATAR:Discover PandoraBangkok งาน World ExhibitionTour ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับ Interactive Exhibition ที่ผสมผสานศิลปะความบันเทิงและเทคโนโลยีจากภาพยนตร์ AVATAR,งาน The Mall Japan Discovery ซึ่งถือเป็นงานซิกเนเจอร์ของเดอะมอลล์ เป็นต้นโดยเพิ่มปริมาณการจัดบิ๊กอีเวนต์มากขึ้น 4 เท่า เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดึงให้ลูกค้าเข้ามา
นางสาววรลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าธุรกิจค้าปลีกในครึ่งปีหลังจะมีการเติบโต 5%จากภาพรวมเศรษฐกิจที่คึกคักขึ้น ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งขึ้นรวมถึงการค้าปลีกออนไลน์หรืออี-คอมเมิร์ซที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่ม่สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการขยายตัวในสัดส่วน 5%เช่นกัน ขณะที่เดอะ มอลล์ กรุ๊ปเองนั้นคาดว่าจะมี 3-5% จากครึ่งปีแรกที่มีการเติบโต 5% และการรุกทำตลาดของศูนย์การค้าจะช่วยกระตุ้นให้นักช็อปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 15-20% และช่วยให้ร้านค้ากว่า 1,200 ร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ