ฉายภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัวเลขฟ้องว่าได้รับผลกระทบจากธุรกิจประมงที่แผ่วลงจากมาตรการ IUU ซึ่งเป็นมาตรการให้ใบแดงสินค้าประมงเข้าไปขายในตลาดสหภาพยุโรป
“ธุรกิจประมง ตั้งแต่มี IUU ทำให้เศรษฐกิจจังหวัดหรือดัชนี GPP ตกไปเยอะ ถ้าไม่มีเศรษฐกิจอื่นมาช่วยก็จะลำบาก” คำกล่าวแบบเปิดอก
สำหรับตัวเลขอสังหาฯ ข้อมูลสำรวจ ณ สิ้นปี 2559 มีซัพพลายอยู่ระหว่างขายรวม 17,242 ยูนิต มูลค่าขายรวม 52,536 ล้านบาท มีราคาเฉลี่ยยูนิตละ 3.047 ล้านบาท มีจำนวนขายได้ 9,368 ยูนิต จาก 72 โครงการ
ในภาพรวมทุกโปรดักต์มีหน่วยเหลือขาย 7,874 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 54% ประเภทขายดีสุดต้องยกให้อาคารพาณิชย์ ขายง่าย นอกจากนี้ก็มีบ้านเดี่ยวราคา 4 ล้านกว่า
ส่วนทาวน์เฮาส์เป็นสินค้ายอดนิยม แต่ก็มีผู้ประกอบการช่วยกันผลิตเยอะ โดยครองแชมป์สูงสุดในแง่ยูนิต แบ่งเป็น 7,532 ยูนิต สูงกว่าบ้านเดี่ยวที่มี 4,418 ยูนิต ในขณะที่มูลค่ารวมอยู่ที่ 13,715 ล้านบาท เป็นรองบ้านเดี่ยวที่ยูนิตน้อยกว่าแต่มูลค่าสูงกว่า ทำให้มูลค่าตลาดบ้านเดี่ยวรวม ๆ เด้งไปอยู่ที่ 24,071 ล้านบาท
ตัวชี้วัดน่าสนใจชวนไปดูระยะเวลา คาดว่าจะขายหมด (ในกรณีไม่มีซัพพลายใหม่เปิดเพิ่มเติม) อาการหนักสุดเป็นสถิติของบ้านแฝด 25.6 เดือน กับอาคารชุดอยู่ที่ 25.1 เดือน ทั้ง ๆ ที่ 2 ประเภทนี้มีซัพพลายไม่เยอะ โดยบ้านแฝดมีซัพพลาย 1,709 ยูนิต อาคารชุดมีเพียง 1,507 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อถัวเฉลี่ยคาดการณ์เวลาระบายสต๊อกได้หมดมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 16.5 เดือน โดยขนาดตลาดวัดจากยอดโอน ณ กรมที่ดินมีจำนวน 6,281 ล้านบาท
หลายคนอาจอยากรู้ว่าธุรกิจประมงเป็นเสาหลักเศรษฐกิจของจังหวัด ที่พักอาศัยจะเป็นประเภทห้องแถว ห้องพักคนงาน แต่เนื่องจากมีเป็นหลัก 1 ล้านคนขึ้นไป ล่าสุด “สุเทพ” บอกว่าภาครัฐกำลังจะมีการจัดโซนนิ่งที่พักแรงงานต่างด้าว
วกกลับมาเข้าเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน มีโครงการทางยกระดับสาย 35 “พระราม 2-วังมะนาว”, โครงการมอเตอร์เวย์เส้นใหม่ “เทพารักษ์-สมุทรสาคร” ที่จะมีสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-แม่น้ำเจ้าพระยา ฯลฯ สถานะยังเป็นแผนบนกระดาษ แต่ถ้าทำตามผลศึกษาพื้นที่สมุทรสาครจะถูกข้ามเมืองออกไปเลย
อานิสงส์ที่ควรจะได้รับจากอินฟราสตรักเจอร์จึงมองว่าไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างน้อยที่สุดธุรกิจท้องถิ่นตลอดแนวถนนพระราม 2 อาทิ ปั๊มน้ำมัน ค้าปลีก บ้านจัดสรรอาจต้องเหนื่อยกว่าปกติ
โปรเจ็กต์ใหญ่ที่กำลังคิดทำคือผลักดันให้มีการจัดตั้ง “บริษัทสมุทรสาครพัฒนาเมือง” รูปแบบเดียวกับในหลายจังหวัดที่กำลังตื่นตัวขณะนี้ เพื่อเป็นแกนกลางหลักของความร่วมมือร่วมใจภาคเอกชนในพื้นที่
เพราะ “จำเป็นที่คนท้องถิ่นต้องลุกขึ้นมาทำอะไรให้เมืองตัวเอง”
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ