อสังหาฯดิ้นปรับตัวรับภาษีที่ดินผุดโครงการไซส์เล็กขายจบใน3ปี เผยไม่ทันเข้าขายพาณิชย์ 2% หลัง กฎหมายผ่อนปรนอัตราต่ำหลังภาษีที่ดินผ่อนปรนให้โครงการบ้านจัดสรร-คอนโดมิเนียมเสียภาษีอัตราต่ำประเภทเกษตรกรรมภายใน 3ปีนับจากเริ่มพัฒนา นายกิติพล ปราโมทย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท สัมมกร จำกัด(มหาชน) เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” ว่านอกจากผู้ประกอบการต้องซื้อที่ดินแปลงเล็กลงแล้ว อนาคตต้องพัฒนาโครงการเล็กลงเพื่อขายทันภายใน 3ปี หากเกินจากนี้ จำนวนหน่วยที่เหลือขายต้องเสียภาษีประเภทพาณิชยกรรม 2% ทั้งนี้จำนวนหน่วยที่เหมาะสม บ้านเดี่ยวไม่ควรเกิน200หน่วยทาวน์โฮมไม่เกิน 250 หน่วยซึ่งการพัฒนาแนวราบอยู่ที่ 3-4ปี ขณะที่คอนโดมิเนียม หากทำเลดีความต้องการสูงจะขายได้ทัน
นายกิตติพลอธิบายว่า ที่ผ่านมา ร่างภาษีที่ดินเดิม จะเสียภาษีประเภทพาณิชย์ ตั้งแต่ต้นหากรัฐบาลไม่ผ่อนปรนจะกระทบผู้บริโภคซื้อบ้านแพงผู้ประกอบการต้องบวกต้นทุนทั้งหมดในราคาขาย
สำหรับบริษัทรายกลางรายเล็กอาจมีภาระเรื่องต้นทุนที่ดินในเมืองราคาแพง ประกอบกับต้องพัฒนาเร็วและขายให้หมดภายใน 3 ปี ทางออก ต้องไปพัฒนานอกเมือง เพื่อลดต้นทุนที่ดิน และภาษีก็ต่ำลง ส่วน ค่ายใหญ่
จะกดดันเรื่องการขยายกิจการหาก กทม.และปริมณฑลอิ่มตัวการขายช้าลง ต้องขยับไป จังหวัดหัวเมืองใหญ่เช่นกันเช่นบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ไปปักธงที่จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ ราคาไม่แพง
กลับกันหากมีจำนวนหน่วยเหลือขาย และนำปล่อยเช่า นายกิตติพล สะท้อนว่า บ้านเช่าจะอยู่ในข่ายพาณิชย์ แต่คอนโดมิเนียมตรวจสอบยาก หากสมรู้ร่วมคิดกับผู้เช่าเป็นญาติ หรือเพื่อนสนิทเพื่อเสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัย ก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่างคอนโด ราคา 2 ล้านบาทเสียภาษีที่อยู่อาศัย ปีละ600 บาท คิดจาก 0.1 % ของมูลค่าต่ำสุด จากเดิมไม่เคยเสีย หากซื้อไว้หลายห้อง แนะนำให้ปล่อยเช่าเพื่อผลักภาระ ขณะเดียวกัน ที่น่าห่วงคือ ธุรกิจปั๊มน้ำมัน บ้านเก่า ร้านอาหารกลางเมือง ต่อไปต้องออกไปอยู่นอกเมือง อย่างไรก็ดีมองว่า กลุ่มที่กระทบมากสุดคือแลนด์ลอดจ์
สำหรับทางออกที่ช่วยบรรเทาต้นทุนภาษี ได้ คือรัฐบาลต้อง บังคับใช้ผังเมืองกทม.ฉบับใหม่พร้อมกับภาษีที่ดิน โดยเฉพาะ ประเด็นซื้อขายโอนสิทธิ์ ค่าเอฟเออาร์ หรือ สัดส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน สำหรับบ้านหรือ บริษัทใดที่ไม่ไม่ต้องการสร้างอาคารสูง แต่กลับอยู่ในทำเลที่สามารถก่อสร้างได้มาก ก็ขายสิทธิ์ เอฟเออาร์ให้กับ ผู้ประกอบการ มีที่ดินอยู่ในทำเลที่ก่อสร้างได้น้อย ก็จะช่วยลดต้นทุนได้ ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเสนอเรื่องดังกล่าวต่อนายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้วซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ