นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทสามารถปิดยอดขายไตรมาสแรกของปี 2560 ได้สูงถึง 7,000 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่วางไว้และนับว่าสูงที่สุดในรอบ 3 ปีของการสร้างยอดขายไตรมาสแรก ทั้งที่ไม่ได้มีการจัดงานขายใหญ่ อาทิ การจัดงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม ดังที่ได้รับการตอบรับที่ดีในช่วงที่ผ่านมา โดยสร้างยอดขายหลักจากตลาดต่างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากการนำโครงการ “เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์” คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุด ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และบีทีเอส กรุ๊ป จำนวนทั้งสิ้น 981 ยูนิต มูลค่า 5,800 ล้านบาท เปิด Global Launch เต็มรูปแบบใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน และมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมงานโรดโชว์ในทั้ง 4 ประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมจากตลาดต่างชาติในช่วงไตรมาสแรกนี้สูงถึง 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการ “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดบนถนนวิทยุ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมีนาคม รวมทั้งการได้รับการตอบรับที่ดีจากยอดขายโครงการแนวราบตั้งแต่ไตรมาสแรก ทั้งการปิดการขายโครงการ “สิริ อเวนิว สายไหม” อาคารพาณิชย์ดีไซน์โมเดิร์น สไตล์นิวยอร์กลอฟต์ใหม่ ใจกลางย่านสายไหม มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาทได้ทันทีตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการ
รวมทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ใจกลางสุขุมวิท 77 “การ์เด้นท์ สแควร์ สุขุมวิท 77” ราคาเฉลี่ย 15 ล้านบาท ที่สร้างยอดขายไปได้ถึง 70% จากการเปิดบ้านตัวอย่างใหม่ดีไซน์พิเศษที่เปิดให้สัมผัสกลิ่นอายแห่งลอนดอน ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงไตรมาสแรกได้สูงถึง 7,000 ล้านบาทในที่สุด
“ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาทิ แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องรวมทั้งการผลักดัน โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ขณะที่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคเอกชนรายใหญ่ควรมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สร้างความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมกลับมา โดยสำหรับกลุ่มแสนสิริมีการวางเป้าหมายโดยวางแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 นี้ ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,600 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส 2 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบุราสิริ วัชรพล และโครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา โดยตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 2 สูงถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 40% จากยอดขายไตรมาสแรกที่ทำได้ 7,000 ล้านบาท” นายเศรษฐา กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ