วันที่ 1 เมษายน 2560 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา บริเวณอนุสาวรีย์ผู้กล้าหาญกรมทางหลวง เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวง ปีที่ 105
โดยมีนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยคณะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง กรมทางหลวง และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีดังกล่าว
ทั้งนี้กรมทางหลวง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2455 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 105 ปีแล้ว ที่ได้พัฒนาเส้นทางคมนาคมให้เจริญรุดหน้ามาตามลำดับ จากทางเกวียน สู่ทางลูกรัง ทางลาดยาง จวบจนมาถึงการก่อสร้างเพิ่มช่องจราจรในเส้นทางสายหลัก 4 – 8 ช่องจราจร
ก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์และการเชื่อมโยงเส้นทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึง ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาค
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย2558-2565 ใน 5 ประการ ดังนี้
1.การพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เพื่อรองรับระบบโลจิสติกส์ภาคการขนส่ง
2.การพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
3.การดูแลรักษา ปรับปรุง และพัฒนาประสิทธิภาพโครงข่ายทางหลวงให้กระจายทั่วทุกภูมิภาค
4.การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและ
5.การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กรตอบสนองสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ปัจจุบันกรมทางหลวงมีเส้นทางในความรับผิดชอบเป็นระยะทางประมาณกว่า60,000 กิโลเมตร โดยมีโครงการก่อสร้างสำคัญๆหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน–สระบุรี–นครราชสีมา สายพัทยา–มาบตาพุด และสายบางใหญ่–กาญจนบุรี
โครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน โครงการบูรณะโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างภาค โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ โครงการพัฒนาทางหลวงเพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ งานแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ งานแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองหลัก เป็นต้น
กรมทางหลวง ได้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและคมนาคม ยกระดับการให้บริการเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สังคม และประเทศชาติ รวมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทัดเทียมสากลสืบไป ดั่งวิสัยทัศน์ที่ว่า “ระบบทางหลวงที่สะดวก ปลอดภัย เชื่อมโยงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ”
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ