ธนารักษ์มึน ! เปิดประมูลพัฒนาที่ราชพัสดุ 14 แปลงเจอรุมค้าน อธิบดีสั่งเจ้าหน้าที่ยึดขั้นตอนกฎหมาย ลั่นสุดท้ายหากไม่ผ่าน EIA พร้อมยกเลิกโครงการ ส่วน “บ้านธนารักษ์ประชารัฐ” บริเวณโรงกษาปณ์เก่า ยังวุ่น-ประสานเขตพญาไทแจงชาวบ้านในพื้นที่อีกครั้ง
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงการเปิดประมูลหาผู้ลงทุนในที่ราชพัสดุ 14 แปลง ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ ที่บางพื้นที่เริ่มมีเสียงคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ เช่น แปลงเกาะกูด จ.ตราดนั้น มีปัญหาการคัดค้านเกือบทุกโครงการ แต่กรมก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ยึดการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกข่าวแจ้งนักลงทุนที่สนใจทั่วประเทศไปแล้ว ซึ่งการมาค้านในขั้นเปิดประมูลอาจจะเร็วเกินไป เพราะแต่ละโครงการต้องมีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่แล้ว สุดท้ายหาก EIA ไม่ผ่าน ทางกรมธนารักษ์ก็พร้อมจะยกเลิก
“แปลงเกาะกูดนั้น เป็นพื้นที่ที่ทหารคืนมาให้ แต่มีคนบุกรุกอยู่ เราก็อยากทำให้ถูกต้อง เอาเข้าระบบ ถ้าเดินหน้าไม่ได้ ต่อไปก็จะเหมือนเกาะเต่า แต่เกาะเต่าตอนนี้ได้มีการเซ็นสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ 20 แปลงแล้ว ซึ่งควรทำให้ได้แบบนั้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่เข้าระบบเสียที ส่วนการเปิดประมูลที่ราชพัสดุ 14 แปลงดังกล่าว ถือเป็นการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อให้เข้าสู่ระบบและมีรายได้ที่เหมาะสม แม้ว่าอาจจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มไม่ถึงร้อยล้านบาท แต่การเปิดประมูลก็จะทำให้โปร่งใสขึ้น แต่ยอมรับว่าพอมีการจัดระเบียบ ก็ย่อมมีผู้ได้รับผลกระทบ เพราะเดิมอาจจะครอบครองกันมาแบบไม่ถูกต้อง” นายจักรกฤศฏิ์กล่าว
ส่วนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ บริเวณโรงกษาปณ์เก่า ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ในนามกลุ่มอนุรักษ์พญาไทคัดค้านการก่อสร้างโครงการ เนื่องจากเกรงว่าจะสร้างความแออัด ทั้งในแง่ประชากรที่จะเพิ่มขึ้นและสภาพการจราจร
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า จะประสานงานกับเขตพญาไทนัดชาวบ้านในพื้นที่มาหารือกันอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ โดยจากการลงพื้นที่ทำให้ได้รับทราบปัญหาต่าง ๆ พอสมควร โดยเฉพาะผลกระทบจากการทุบตึกเก่า ซึ่งกรมจะนำกลับไปปรับปรุงและวางแนวทางแก้ปัญหาให้รัดกุมต่อไป ส่วนผลกระทบด้านการจราจร ที่ชาวบ้านกังวลนั้น จะมีการศึกษาให้ชัดเจนว่าโครงการจะทำให้เกิดผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
อีกทั้งโครงการนี้ยังต้องรอผลศึกษาEIAก่อน ซึ่งขณะนี้ผู้ชนะประกวดแบบ คือ บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสครัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด อยู่ระหว่างยื่นเรื่อง และเมื่อมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น คาดว่าชาวบ้านจะเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ดี การที่กรมธนารักษ์เลือกพื้นที่บริเวณนี้ทำโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ใกล้กระทรวงการคลัง จึงเหมาะที่จะทำที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการผู้มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน โดยจะให้เช่าอยู่อาศัยได้ไม่เกิน 5 ปีแล้วหมุนเวียนให้ข้าราชการรายอื่น โดยมีอัตราค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท
ทั้งนี้ โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ แปลงโรงกษาปณ์เก่านี้ เป็นอาคารลักษณะคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 380 ยูนิต จอดรถได้ 118 คัน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เปิดให้ข้าราชการจองสิทธิเช่า และมีข้าราชการผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน ยื่นขอจองสิทธิ์เช่า 400-500 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติกว่า 100 ราย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ