“ประยุทธ์” ขีดเส้นรื้อบ้านรุกคลองลาดพร้าว-เปรมประชากร 11,858 หลังในสิ้นปี 2560 ชูคุณภาพชีวิต-แก้นํ้าท่วมเทงบ 1,000 ล้านโยนพอช. ปล่อยกู้ดอกเบี้ยตํ่า 4%
ปฏิบัติการไล่รื้อที่อยู่อาศัยรุกคลองในเขตกทม. เริ่มเห็นเป็นรูปธรรม เมื่อ พล.อ.ประยทุ ธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ผ่อนปรนพอช.สร้างบ้านมั่นคงในทำเลเดิมริมคลองโดยไม่ต้องเว้นถอยร่นและทำอีไอเอ
แหล่งข่าวจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ อพช. เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่าอพช. ได้รับมอบหมายตามนโยบายรัฐบาล ให้พัฒนาที่อยู่อาศัยประชาชนในเขตกทม. ที่สร้างบ้านอยู่อาศัยรุกล้ำคลองสายหลัก 9 คลอง และสายรองกว่า 1,600 คลอง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแบบถูกกฎหมายไม่บุกรุกที่ดินรัฐ
ทั้งนี้แผนเร่งด่วน เร่งแก้ปัญหาคลองหลัก 2สาย ได้แก่ คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรเฉพาะในเขตกทม. ตั้งแต่ ถนนรัชดาฯบริเวณหมู่บ้านกลางเมือง ไปจนถึงหลังหมู่บ้านแกรนคาแนล เขตดอนเมือง โดยร่วมมือกัน3หน่วยงาน ได้แก่ พอช. จัดหาที่อยู่อาศัย กทม. รื้อย้ายและจัดทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วม และ กรมธนารักษ์ผู้ให้เช่าที่ดินปลูกสร้างบ้าน
จากการสำรวจพบว่า คลองลาดพร้าวมีผู้บุกรุก 7,081 หลังคาเรือน ล่าสุด รื้อย้ายแล้ว 500 หลังคาเรือน และมีผู้ต่อต้านกว่า 1,000 หลังคาเรือนไม่ยอมรื้อย้าย โดยอ้างว่าติดถิ่น ใกล้แหล่งทำมาหากินและไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายจากการสร้างบ้านใหม่เพิ่ม
ขณะที่ คลองเปรมประชากร พบผู้บุกรุก 4,777 หลังคาเรือน แยกเป็น เขตดอนเมือง 14 ชุมชน หลักสี่ 13 ชุมซึ่งขณะนี้ยังไม่เข้าดำเนินการ ส่วนแนวคลองเปรมประชากรในเขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี จะต้องประสานกับจังหวัดปทุมในอนาคตที่จะจัดระเบียบคลองร่วมกันในอนาคต
อย่างไรก็ดีเป้าหมายรื้อย้ายและจัดหาที่อยู่อาศัยคลองลาดพร้าวให้แล้วเสร็จในปี 2560 และคลองเปรมประชากร ให้แล้วเสร็จปี 2561 นอกจากคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรแล้ว ลำดับต่อไปจะดำเนินการรื้อย้ายจัดที่อยู่อาศัยประชาชนบริเวณคลองบางซื่อ ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าประชาชนปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัยบุกรุกมากกว่า 500 หลังคาเรือน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับแผนจูงใจ ครม.ได้อนุมัติ งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ให้อพช.ปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนที่ยอมเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง ดอกเบี้ยต่ำ 4% โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องรวมกลุ่มกู้ผ่านสหกรณ์ ซึ่งเป็นนิติบุคคล โดยอพช.จะโอนสินเชื่อผ่านสหกรณ์ ก่อนถึงมือประชาชน แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้กู้จะต้องเสียดอกเบี้ย ให้กับสหกรณ์ ตามที่กำหนด
อาทิ 1% แต่เพดานสูงสุดไม่เกิน7% โดยคุณสมบัติผู้กู้ กำหนด 2 รูปแบบคือกรณี กทม.สร้างเขื่อนแล้วเหลือพื้นที่ให้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินเดิมริมคลองหลังเขื่อนสามารถกู้เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ 3 แสนบาท ดอกเบี้ย 4% และกรณี ยอมย้ายถิ่นไปอยู่ที่ดินแห่งใหม่ปลูกสร้างบ้านมั่นคงหรือบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติพอช.จะให้กู้เพดานสูงสุด 3.3แสนบาท ผ่อนผ่านสหกรณ์ 15 ปี ส่วนที่ดินทั้งริมคลองและจัดหาที่ดินใหม่ จะเป็นหน้าที่ของกรมธนารักษ์ให้เช่าราคาถูก
ด้านนางวาสนา ศิลป์เบญจพร ผู้อำนวยการกองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เร่งรัดสร้างเขื่อนริมคลองสายหลัก 9สายในเขตกทม. ได้แก่ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ คลองสองต้นนุ่น คลองพระโขนง คลองประเวศ คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองพญาราชพงษ์ และ คลองสายย่อยอีก 1,682 คลองแก้ปัญหาบุกรุกและ ป้องกันน้ำท่วม เบื้องต้นได้เร่งรัดทำเขื่อน 2 คลองเร่งด่วนก่อน คือคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ส่วนการจัดที่อยู่ใหม่ให้กับประชาชน คือหน้าที่ของพอช. ซึ่งต่อไปหากมีการรื้อย้ายแล้ว กทม.จะเข้าไปขุดลอกขยายคลองเพื่อให้คลองกว้างน้ำระบายเร็วขึ้น โดยไม่ติดปัญหาบ้านเรือนประชาชนกีดขวางการไหลของน้ำอีก ซึ่งที่ผ่านมา มักมีปัญหาการสะสมของสิ่งปฏิกูล การสร้างที่อยู่อาศัยทั้งสองฝั่งยื่นล้ำเข้าไปในคลองค่อนข้างมาก จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเครื่องมือ ขุดลอกขยายคลองเข้าไปดำเนินการได้
อย่างไรก็ดีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่ง มาตรา 44 จัดระเบียบแนวคลองพร้อมจัดหาที่อยู่ใหม่ให้กับผู้บุกรุกสามารถขึ้นบนฝั่งอยู่หลังแนวเขื่อนที่กทม.ก่อสร้างโดยไม่ต้องเว้นระยะถอนร่นจากแนวคลอง 6 เมตร ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ควบคุมอาคารพ.ศ.2522 นอกจากนี้ยังผ่อนปรนไม่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของผังเมืองรวมกทม. อีกทั้งการก่อสร้างที่อยู่อาศัยริมคลองสาธารณะอพช.ไม่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ
เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เหลือพื้นที่ให้ก่อสร้างบ้านมั่นคง อีกทั้งรัฐบาลต้องการให้ประชาชนอยู่อาศัยติดกับถิ่นเดิมที่ประชาชนอ้างว่า อาศัยริมคลองร่วม 100 ปี หรือสามารถทำงานใกล้แหล่งงานได้เพียงแต่ ขอให้ขึ้นจากน้ำมาอยู่บนบกในพื้นที่ที่รัฐจัดพื้นที่ให้
นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน สำนักการโยธากทม.เสริมว่ากทม.มีแผนจ่ายชดเชยให้กับประชาชนที่ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยในกทม. ให้ออกจากแนวคลองทุกคลองทั้งคลองสายหลักและคลองย่อย เกือบ 1,700 คลอง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ