การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีขบวนรถไฟเปล่าที่ 1171 พ่วงตู้โดยสารรุ่นใหม่ ตกรางในย่านสถานีชุมทางบางซื่อ สาเหตุเกิดจากความบกพร่องจากการสับประแจทางรถไฟ ไม่ใช่เกิดจากปัญหาตัวรถ หรือระบบการเดินรถของรถไฟฯ พร้อมสั่งตั้งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงหาผู้กระทำผิดมาลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้รับรายงานการเกิดเหตุขบวนรถไฟเปล่าที่ 1171 ซึ่งพ่วงตู้โดยสารรุ่นใหม่ที่ให้บริการในเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เกิดเหตุตกรางบริเวณที่หยุดรถ กม.11 หลังจากเดินรถออกจากสถานีกรุงเทพเพื่อเข้าไปทำความสะอาดและสูบถ่ายสิ่งปฏิกูล ที่ย่านสถานีชุมทางบางซื่อ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและอันตราย เนื่องจากเป็นขบวนรถเปล่าที่เสร็จสิ้นจากการรับส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งขบวนรถยังไม่กระทบต่อการเดินรถ เพราะสามารถใช้เส้นทางประธานเดินรถขึ้นระหว่างสถานีบางเขน ถึงสถานีชุมทางบางซื่อได้
ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้น พนักงานสับเปลี่ยนประแจระบุว่า ระหว่างที่ขบวนรถดีเซลกำลังลากรถพ่วงขบวน 1171 ซึ่งพ่วงตู้โดยสารรุ่นใหม่ผ่านประแจเบอร์ 263 ประแจได้เกิดดีดกลับเป็นท่าทางประธาน จนเป็นเหตุให้ตู้โดยสารตู้ที่ 2 คือ รถ บนท.ป.1354 ตกราง จำนวน 1 ตู้
สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการกลับประแจใต้ท้องรถกะทันหัน โดยขบวนรถยังไม่พ้นระยะปลอดภัยจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ยืนยันว่าเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความบกพร่องที่เกิดจากตัวรถรุ่นใหม่ หรือระบบการเดินรถของการรถไฟฯ แต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้การรถไฟฯจะมีการตั้งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและผู้กระทำผิดมาลงโทษตามวินัยอย่างเด็ดขาด
นายวุฒิชาติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่การรถไฟฯ ได้รับทราบการเกิดอุบัติเหตุตกราง ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงที โดยเมื่อเวลา 09.20 น. ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้ากู้ขบวนรถที่ตกราง ด้วยการใช้รถพิเศษช่วยอันตรายจากสถานีชุมทางบางซื่อมาทำการยก และสามารถยกแคร่ที่ 1 ได้สำเสร็จ ในเวลา 15.42 น. และยกแคร่ที่ 2 สำเร็จเวลา 15.57 น. รวมถึงได้ให้เจ้าหน้าที่บำรุงทางทำการแก้ไขทางรถไฟที่ได้รับความเสียหาย จนสามารถใช้เส้นทางในบริเวณดังกล่าวได้เป็นปกติอีกครั้งในเวลา 17.30 น.
นอกจากนี้ระหว่างที่มีการกู้ขบวนรถและซ่อมบำรุงทาง การรถไฟฯ ยังได้มีการจัดขบวนรถสำรองมาหมุนเวียนสับเปลี่ยนแทนขบวนรถที่ตกราง ทำให้สามารถเปิดเดินรถได้ครบตามตารางที่กำหนดไว้ ส่วนความเสียหายของตู้โดยสารที่ตกราง อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ทำการประเมินอีกครั้ง