เปิดโมเดลพัฒนาที่ดิน ส.ป.ก. หลังใช้ ม.44 ยึดที่คืนจากนายทุน นำร่อง 1.11 แสนไร่ ใช้งบกว่า 960 ล้านปรับพื้นที่-สร้างถนน ขุดบ่อนํ้าเพื่อเกษตร อุปโภคบริโภควงในเผย “ฉัตรชัย” หวังแก้ปัญหาเกษตรกรขายที่ในอนาคต-ลั่นต้องทำกินได้จริง ก่อนแจก
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลการประชุม (19 ม.ค.60) ที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการและประธานในที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วง หลังจากที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ได้ยึดคืนพื้นที่มาแล้วจะดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้นายทุนกลับมาบุกรุกอีก ทั้งนี้หากย้อนกลับไปพิจารณาสาเหตุที่จัดสรรให้แล้วทำไมเกษตรกรจึงนำที่ดินไปขายหรือไม่เข้าทำกินด้วยตนเอง จนกระทั่งนายทุนรายใหญ่เข้ามากว้านซื้อ เป็นเพราะเกษตรกรได้รับการจัดสรรที่ดินแล้วไม่สามารถทำกินได้ จึงมีความคิดว่าน่าจะมีการพัฒนาที่ดินก่อน แล้วจึงจัดที่ดินตามความเหมาะสมโดยเนื้อที่ไม่ต้องมากแต่เกษตรกรสามารถอยู่ได้ ดังนั้นควรเร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และส่งมอบให้ คณะกรรมการจัดการที่ดินแห่งชาติ (คทช.)ดำเนินการจัดสรรให้เกษตรกรต่อไป
“การพัฒนาพื้นที่ที่ได้จากการยึดคืนพื้นที่ จะนำร่องแปลงพื้นที่ตั้งแต่ขนาด 300 ไร่ขึ้นไป รวมเนื้อที่ประมาณ 1.11แสนไร่ ประมาณราคางาน 8,600 บาทต่อไร่ งานพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ราคางานละ 1 หมื่นบาทต่อไร่ งานสำรวจ รังวัดวงรอบแปลงที่ดิน ราคางานละ 100 บาทต่อไร่ งานปรับพื้นที่ เช่น ถางป่า ขุดตอ ปรับเกลี่ยพื้นที่ ราคางานละ 2,500 บาท และงานพัฒนาระบบโครงข่ายถนน เช่นงานก่อสร้างถนนลูกรังสายหลักและถนนซอย ราคางานละ 4,000 บาทต่อไร่ เป็นวงเงินทั้งสิ้น 960 ล้านบาท”
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า พล.อ.ฉัตรชัย ยังกล่าวในที่ประชุมว่า เมื่อดำเนินการปรับสภาพื้นที่แล้วจะสั่งการให้หน่วยงานต่างๆภายในกระทรวงเกษตรฯ เช่นกรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดิน เข้าไปตรวจสอบว่าพื้นที่นั้นเหมาะสมต่อการเกษตรประเภทใดปลูกพืชหรือสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำกินได้จริง
อย่างไรก็ตามกรอบระยะเวลาพื้นที่ที่ยึดคืนได้ ตาม ม.44 นั้น เนื้อที่ 3.10 แสนไร่ จากทั้งหมด 4.43 แสนไร่ (ตามตาราง) จะนำมาดำเนินการจัดที่ดินตามนโยบาย คทช.ดังนี้ 1. พื้นที่ จำนวน 1 แสนไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ 3 หมื่นไร่ จะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2560 ส่วนพื้นที่ 7 หมื่นไร่ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2560 2.พื้นที่ 1.50 แสนไร่ จะดำเนินการจัดที่ดินให้เกษตรกรผู้ถือครองที่ดินเดิม โดยจะจัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2560 และ 3.ในพื้นที่ส่วนที่เหลือ จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2561
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ