นับจากปี 2557 ที่ “คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ปฏิบัติการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ มี “พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์” ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เป็นทัพหน้า ในฐานะประธานคณะทำงานผลงานชิ้นโบแดงคือจัดระเบียบรถตู้ 4,205 คัน 189 วินบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในรูปแบบ “1 วิน 1 คิว 1 คัน” ย้ายมาอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิต เอกมัยและสายใต้ แก้ปัญหาจราจร
ล่าสุดกำลังจัดระเบียบรถตู้สายต่างจังหวัดรัศมีไม่เกิน 300 กม.หลังเกิดเหตุตายหมู่ 25 ศพช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
“พล.ต.เฉลิมพล” กล่าวว่า หลังนำรถตู้โดยสารใน กทม.ย้ายเข้า 3 สถานีขนส่งสำเร็จ ยังมีเส้นทางต่างจังหวัดยังจอดในพื้นที่สาธารณะและที่ของเอกชน จึงให้หน่วยงานเกี่ยวข้องในต่างจังหวัดรับทราบแนวทางของ คสช.ที่ให้รถตู้ต่างจังหวัดเข้าไปจอดในสถานีขนส่งของ บขส.กว่า 100 แห่งให้หมดเดือน มี.ค. โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ก.พ.นี้
“เป้าคือให้รถตู้อยู่ในการควบคุมของรัฐ เพื่อกำกับการเดินรถ ตรวจสภาพรถและคนขับที่ขับต่อเนื่องไม่เกิน 4 ชั่วโมง อีกทั้งยังเกี่ยวข้องผู้มีอิทธิพล เพราะบางต่างจังหวัดมีเช่าพื้นที่ หากเรียกเก็บเงินเพิ่ม รถแต่ละคันต้องจ่ายเงิน ครั้งนี้สำเร็จจะปลดเปลื้องเจ้าของวินเดิมออกจากระบบได้”
ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายห้วงเวลานี้ถือว่าเป็นห้วงเวลาคัดกรองผู้ประกอบการด้วยจากก่อนหน้านี้ที่บริหารวินกันเองจนเคยชินแต่ไม่ได้มาตรฐาน ความสำนึกก็ไม่ได้ รวมถึงคัดกรองคนขับด้วย ใครทำผิดซ้ำ ๆ จะใช้มาตรการกฎหมายที่แรงขึ้น จนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต เพราะไม่พร้อมจะปรับตัวเข้าสู่ระบบ
“เมื่อรัฐเข้ามาร่วมให้รถจดทะเบียนถูกกฎหมายแล้ว ต้องดูแลไม่ให้มีผู้มีอิทธิพลมาแทรกแซง ที่ผ่านมาแล้วก็ไม่คิดย้อนหลัง ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าของรถรายย่อย รายคัน บรรทุกคนเกิน ขับรถเร็ว เร่งทำรอบ ไม่ดูแลสภาพรถ เพราะได้ประโยชน์เข้าตัวเอง ต้องตั้งบริษัทหรือนิติบุคคลถึงจะคุมได้”
อีกทั้งจะจำกัดความเร็วของรถด้วย หากเป็นทางพิเศษไม่เกิน 110 กม./ชม. ถนนธรรมดา 90 กม./ชม. สูงสุดไม่เกิน 110 กม./ชม.
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ