การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้การค้าชายแดนขยายตัวมากขึ้น ทั้งภาคการค้าขาย การลงทุนของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยปี 2556 ที่ผ่านมา “ไทย” มีมูลค่าการค้าชายแดน 4 ประเทศเพื่อนบ้าน
(พม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย) รวมกว่า 9 แสนล้านบาท
ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนของไทยและเพื่อนบ้านเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเทศเพื่อนบ้านดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเสรีมากขึ้น รวมถึงนโยบายของภาครัฐมุ่งพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมใหม่ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และการลงทุนที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ การพัฒนาอสังหาฯ ทั้งเชิงพาณิชย์ (พลาซ่า คลังสินค้า อาคารพาณิชย์) และที่อยู่อาศัย
ผลสำรวจปี 2556-2557 พบว่า ตลาดอสังหาฯ ย่านการค้าชายแดนมีการขยายตัว โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดที่พักอาศัย ที่ได้ปัจจัยสนับสนุนทางอ้อมจากพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจที่มีการกระจายรายได้สู่ประชาชนในท้องถิ่นจากการค้าขาย ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการอยู่อาศัยเป็นแบบ “คนเมือง” นิยมพักอาศัยในห้องชุดขนาดกระทัดรัดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
โดยเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี และหาดใหญ่ คอนโดมีการตอบรับที่ดี เฉลี่ย 20 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ หากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ผลตอบรับสูง 40-50 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ พบว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ คือ ลูกค้าท้องถิ่น อาทิ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา พนักงานของรัฐ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่นิยมซื้อเพื่อ ปล่อยเช่าแบบรายเดือน
“การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะมีบทบาทอย่างมากในการ ผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ ขยายตัวทั้ง ตลาดขายและตลาดเช่า โดยเฉพาะคอนโด ราคาไม่เกิน 6 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. เพราะเป็นราคาที่ไม่สูงมาก การคมนาคมขนส่งที่ถูกพัฒนาให้มีความเชื่อมโยงกันระหว่างภูมิภาค ทำให้จังหวัดชายแดนและจังหวัดใกล้เคียงกลายเป็นพื้นที่ศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง เหมาะแก่การลงทุนอสังหาฯ”
:ซี.พี.แลนด์ปักธงจ.ชายแดน
สุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า ปี 2558 จะขยายการลงทุนเพิ่มใน 10 จังหวัด โดยเฉพาะแนวเขต การค้าชายแดน อาทิ พิษณุโลก เชียงราย และสุราษฎร์ธานี จาก 2 ปีที่ผ่านมา ขยายการลงทุนในหัวเมืองกว่า 30 จังหวัด ผลักดันธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันมีจำนวนห้องชุดที่พัฒนาแล้ว และเตรียมเปิดขายกว่า 8,000 ยูนิต มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 โครงการ จำนวน 315 ยูนิต มูลค่า 1,122 ล้านบาท “ต่างจังหวัดมีศักยภาพการ เติบโตสูงจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ กำลังซื้อ โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก รองรับ โอกาสจากการเปิดเออีซี ด้วยภูมิศาสตร์ของไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ทำให้ ไทยเป็นฐานกระจายสินค้าไปยัง ประเทศต่างๆ”
ซีพีแลนด์ เป็นบริษัทอสังหาฯ ใหญ่สุดในต่างจังหวัด ที่เชื่อว่าตลาดยังมีดีมานด์อยู่มาก
:พฤกษา-พีดีเฮ้าส์ บุกลงทุน
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีแผนขยายการลงทุนในจังหวัดชายแดน และ 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ เชียงราย ตาก ตราด สระแก้ว และสงขลา มากขึ้น เพราะการเปิดเออีซี ทำให้มีการเข้าลงทุนของต่างชาติอย่าง ต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความต้องการ ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
“เออีซี ทำให้ตลาดค้าขายชายแดนคึกคัก สร้างศักยภาพให้กับพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการลงทุนสาธารณูปโภคของ ภาครัฐในโครงการต่างๆ ทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในกรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท เป็นตัว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
สิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ พีดีเฮ้าส์ ระบุว่า วางยุทธศาสตร์ธุรกิจรับการ เปิดเออีซี โดยมุ่งขยายสาขาสู่จังหวัดการค้าชายแดน ที่มีด่านศุลกากรอย่าง อ.แม่สอด จ.ตาก ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.สะเดา จ.สงขลา ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้ ตลาดรับสร้างบ้านในเมืองชายแดนจะมีการขยายตัวมากขึ้นเมื่อเปิดเออีซี ซึ่งการเปิดสาขาเมืองชายแดนสามารถรองรับตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้อีกทางด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ