อสังหาฯ ดิ้นส่งท้ายปลายปี โหมโปรโละสต๊อกเก่า เน้นลดราคาและสินเชื่อดึงกำลังซื้อพรสันติ เครือแอล.พี.เอ็น. ชี้ตลาดคอนโดฯ ชะลอตัว ส่งโครงการแนวราบช่วยดันยอด แสนสิริจับมือไทยพาณิชย์ จัดดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน2 ปี ผ่อนล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน นาน 2 ปีสัมมากรนำคอนโดฯ พร้อมอยู่อัดโปรต่อเนื่อง
นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ต้องยอมรับว่าในปี 2559 ตลาดคอนโดมิเนียมไม่คึกคักเท่าที่ควร ขณะที่ตลาดแนวราบยังพอไปได้ และพบว่ามีการแข่งขันกันมากขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมา ในส่วนของบริษัทเองก็หันมาทำตลาดแนวราบด้วยเช่นกัน พร้อมจัดโปรโมชันใหญ่ส่งท้ายปี ขณะที่กลุ่มคอนโดมินียมจะเป็นโปรโมชันของแต่ละโครงการ
สำหรับโครงการที่บริษัทนำมาเข้าร่วมกิจกรรมการตลาด “โปรแสนคุ้ม เลือกความคุ้มค่าในแบบที่ชอบ” เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ สุขสวัสดิ์ – พระราม 2 และบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ เพิ่มสิน-วัชรพล จำนวนประมาณ 30-70 หน่วยต่อโครงการ
โดยผู้ซื้อสามารถเลือกให้ตรงตามความต้องการได้ 3 แบบ คือ คุ้มค่าในราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท จากเดิม 2.39 ล้านบาท คุ้มเวลากับของแถมครบเซต 10 รายการ และคุ้มความสุข แพ็กเก็จทัวร์ญี่ปุ่น 2 ที่นั่ง มูลค่า 1 แสนบาท
“บริษัทมีเป้ารับรู้รายได้ปี 2559 จากกลุ่มแนวราบที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวม 1.55 หมื่นล้านบาท คาดว่า ณ สิ้นปีรายได้จากกลุ่มแนวราบจะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท สืบเนื่องมาจากความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สินภาครัวเรือน ส่งผลให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 30% ขณะที่ยอดขาย 11 เดือนอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ทำให้ยอดขายและยอดโอนไม่เป็นไปตามเป้า” นายจรัญ กล่าว
สำหรับทิศทางตลาดในปี 2560 คาดว่าตลาดยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวเช่นเดิม โดยบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการแนวราบทั้งหมดประมาณ 4-6 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับราคา 3 ล้านบาท แต่มีเพียง 1 โครงการเท่านั้นที่จะพัฒนาเป็นโครงการระดับกลาง-บน ราคาระดับราคา 5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จัดแคมเปญ “COUNTDOWN” มอบความสุขส่งท้ายปี จัดสิทธิพิเศษให้แก่ลูกบ้านแสนสิริที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในปีนี้ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 2 ปี ผ่อนล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน นาน 2 ปี พร้อมของแถมอีกมากมาย
สำหรับผู้ถือบัตร SCB Sansiri Platinum Card รับคะแนนเพิ่มสูงสุด 50,000 คะแนน เมื่อซื้อบ้านแสนสิริและใช้สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ ในทุกโครงการพร้อมอยู่จากแสนสิริจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,200 ล้านบาท จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 เท่านั้น
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) สำหรับภาพรวมตลาดในช่วงนี้ พบว่าผู้ประกอบการที่มีโครงการก่อสร้างพร้อมอยู่ในพื้นที่ จะจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี แทนที่จะเก็บสินค้าเหล่านั้นไปขายปีถัดไป
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทได้จัดแคมเปญแยกแต่ละโครงการ เช่น โครงการคอนโดมิเนียมเอส เก้า เป็นอาคารสูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 655 หน่วย เปิดขายเมื่อปลายปี 2556 ซึ่งขณะนั้นบริษัทมียอดขายอยู่ที่กว่า 70% แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สินภาครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 38% ทำให้ยอดขายและยอดโอนไม่เป็นไปตามเป้า คาดว่าเมื่อจบปีบริษัทจะมียอดโอนที่ประมาณ 60-65% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ที่คาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้ในปี 2559
สำหรับโปรโมชันที่นำมาใช้ในโครงการนี้คือ การนำห้องชุดแต่งครบ พร้อมอยู่ในทุกชั้นมาจัดราคาพิเศษเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท จากเมื่อช่วงกลางปีบริษัทได้จัดโปรโมชัน 1.49 ล้านบาท โดยห้องที่นำมาจัดโปรโมชันจะเป็นห้องที่คัดเลือกมาโดยเฉพาะไม่ใช่ทั้งโครงการ สำหรับราคาช่วงเปิดขายพรีเซลล์ของแบบสตูดิโออยู่ที่ 9.9 แสนบาท และแบบ 1 ห้องนอนอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสำรวจบริษัทอสังหาริทรัพย์ค่ายอื่นๆ พบว่ามีการจัดโปรโมชันหลายบริษัท อาทิ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญ “Ananda One Price Fever”ในราคาเริ่มต้นเพียง 950,000 บาท โดยการนำ 15 โครงการเข้าร่วมแคมเปญ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 12 โครงการ และโครงการแนวราบ 3 โครงการ ในจำนวนนนี้เป้นโครงการพร้อมอยู่ 9 โครงการ สิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ธันวาคม 2559 บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญ “Final Deal” นำเสนอบ้านพร้อมอยู่ 11 โครงการ จำนวน 1,000 หน่วย ราคาตั้งแต่ 2.3-16 ล้านบาท รับข้อเสนอสูงสุด 1 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ