คอนโดฯ เขาใหญ่ซึมลึก เน็กซัส เผยผลสำรวจล่าสุดพบปีนี้มีเปิดใหม่ 2 โครงการ 207หน่วย คอลลิเออร์ส ชี้พิษตรวจสอบเอกสารสิทธิยังอยู่ คาดตลาดชะลอตัวยาว 3 ปี หวังอานิสงส์มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ช่วยกระตุ้นตลาดพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค พับโครงการรอดูสถานการณ์ เค.ดี. แอสเซท ปรับแผนพัฒนาโรงแรมแทน
ปัจจุบันเขาใหญ่มีคอนโดมิเนียมรวม 3,842 หน่วย จาก 34 โครงการ โดยปีนี้มีโครงการเปิดขายใหม่เพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการธาม ฮิลล์ วิลเลจ พัฒนาโดย บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด จำนวน 160 หน่วยและโครงการ X2 วิลล่าโนว่า เขาใหญ่ พัฒนาโดย บริษัท วิลล่าโนว่า เขาใหญ่ จำกัด จำนวน 47 หน่วย อัตราการขายสำหรับโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีอยู่ที่ประมาณ 72% โดยราคาขายเปิดขายของโครงการใหม่อยู่ที่ 9 หมื่นบาท-1 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยของตลาด 15-20%
ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมของเขาใหญ่อยู่ในภาวะชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและปัญหาเอกสารสิทธิที่มีการตรวจสอบนับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งผู้ซื้อเกรงว่าจะเป็นเอกสารสิทธิปลอม หรืออยู่ในพื้นที่ของทางราชการ ส่งผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อ
“ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในเขาใหญ่ จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องไปอีกประมาณ 3 ปี จนกว่าโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชจะแล้วเสร็จ ในระหว่างนี้ถือเป็นช่วงระบายสต๊อกเก่าที่เปิดขายมากเกินไปในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังคงมีโครงการเหลือขายอยู่เป็นมากในเขาใหญ่ สำหรับโครงการที่มียอดขายไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็หยุดพัฒนาโครงการ ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายก็ยกเลิกการขาย เปลี่ยนมาเป็นการพัฒนาโรงแรมแทน” นายสุรเชษฐ กล่าว
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปี 2558 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการเบลล่า เดล มอนเต้ เขาใหญ่ มูลค่ารวม 2,672 ล้านบาท พื้นที่รวม 173 ไร่ ประกอบด้วย วิลล่าหรูระดับไฮเอนด์ 84 หน่วย บนพื้นที่ 166 ไร่ ระดับราคา 18 – 55 ล้านบาท และโรงแรมในรูปแบบบูทีคโฮเทล จำนวน 60 ห้องพัก บนพื้นที่ 7 ไร่
“ด้วยสถานการณ์ตลาดอสังหาฯเขาใหญ่ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอการพัฒนาโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2558 และยังไม่มีแผนจะที่เปิดโครงการ เพราะสภาพตลาดยังไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทก็ยังดำเนินการด้านแลนด์สเคปและระบบสาธารณูปโภคต่างๆในโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขุดทะเลสาปขนาด 20 ไร่ ปลูกต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งการออกแบบบ้านแบบใหม่ๆจากเดิมมี 3 แบบ ปัจจุบันอยู่ที่ 5-6 แบบ ทั้งนี้เพื่อรอเวลาที่ตลาดมีความพร้อม เราก็จะสามารถเปิดตัวได้ทันที” นายวงศกรณ์ กล่าว
ด้าน นายเทอดศักดิ์ บุญทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดี. แอสเซท แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ เซน เน็กซ์ เขาใหญ่ กล่าวว่า บริษัทได้เปิดขายโครงการดังกล่าวเมื่อปี 2556 เดิมตั้งใจพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรู ชูคอนเซ็ปต์การออกแบบด้วยวิถีเซน มูลค่าโครงการประมาณ 650 ล้านบาท โดยเน้นเจาะลูกค้าในกลุ่มระดับบีบวกขึ้นไปหรือนิช มาร์เก็ตที่มีกำลังซื้อสูง มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยม
โดยโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ 6 ไร่ถนนธนะรัชต์ ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยจำนวน 104 หน่วย แบ่งเป็น 2 อาคาร พื้นที่อาคารละ 3 ไร่ ได้แก่ อาคาร A หรือตึก Sun ความสูง 6 ชั้นจำนวน 51 หน่วย และอาคาร B หรือตึก Moon จำนวน 53 หน่วย ในแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.6 – 93.6 ตาราเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.6 ล้านบาท หรือ 9.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร
แต่ด้วยสภาพตลาดที่ชะลอตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแผนการพัฒนาโครงการใหม่ โดยปรับอาคาร B เป็นโรงแรมระดับ 4-5 ดาว มูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท จำนวน 30 หน่วย ขนาด 76 ตารางเมตร เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการห้องพักขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างอยู่ที่ 60% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2560 ในส่วนของคอนโดมิเนียมปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 51 หน่วย มียอดขายมากกว่า 50% ของมูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ระดับราคาขายมากกว่า 4 ล้านบาท ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ