ZEDERE (เซเดอร์เร่) เก้าอี้หนังปรับนอนแบรนด์ดังของไทย ขนทัพนวัตกรรมแปลกใหม่ ออกงานบ้านและสวนแฟร์ 2559 อวดโฉมเตียงนอนสุดไฮเทค พร้อมเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ รองเท้าหนังแบรนด์ Kenz ครั้งแรกในประเทศไทย
นายนัยธาดา นันทน์วิธู กรรมการบริหาร บริษัท ทีมเฟอร์น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอนแบรนด์ ZEDERE (เซเดอร์เร่) เปิดเผยว่า การนำผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอน แบรนด์ZEDERE (เซเดอร์เร่) ออกแสดงในงานบ้านและสวนแฟร์ 2559 ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-6 พ.ย.59 บูธที่ q11-17/q45-51 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเป็นการโชว์นวัตกรรมแปลกใหม่
ทางบริษัทได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลานำมาให้ผู้ชมที่สนใจชมกัน โดยไฮไลท์ในงานนี้ คือ เตียงนอน (DAYBED) ที่ สามารถปรับนอนเองได้ และมีกลไกมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทางบริษัทเป็นคนไทยรายแรกที่นำกลไกนี้มาทำออกจำหน่าย ขณะเดียวกันยังนำผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ได้แก่ รองเท้าหนัง Kenz ที่มีดีไซน์โดนใจคนรุ่นใหม่ และผลิตภัณฑ์ทำมาจากหนังที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน กว่า 10 แบบ อาทิ กุญแจหนัง แฟ้มทำจากหนัง เป็นต้น มาเปิดตัวในงาน
“คอนเซ็ปต์ปีนี้แตกต่างจากทุกครั้ง ซึ่งนำคอนเซ็ปต์ one stop service มาเป็นโจทย์ในการคิดธีมงาน โดยการนำนวัตกรรมแปลกใหม่หลายอย่างมารวมกันในงานเดียว และครบวงจร โดยแต่ละโปรดักท์จะส่งผลถึงกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเก้าอี้หนังปรับนอนเป็นเก้าอี้หนังเพื่อสุขภาพ ดังนั้นเราจึงเน้นในเรื่องสรีระ ความสบาย และฟังก์ชั่น เป็นสำคัญ ทำให้คนที่เข้าชมผลิตภัณฑ์เราอิ่มเอมใจ และ ลูกค้าที่เข้ามาชมก็จะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเก้าอี้หนังปรับนอนแบรนด์ ZEDERE (เซเดอร์เร่) มีการปรับเปลี่ยนและผลิตสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการแสดงดนตรีสด บริการเครื่องดื่ม “ชากุหลาบ” ซึ่งเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ ยังไม่มีขายที่ไหน จากร้าน Zedere de cafe มาให้ลูกค้าวีไอพีทุกท่านดื่มฟรีบรรยากาศจะเหมือนที่เข้าชมงานศิลปะนั่นเอง” นายนัยธาดา กล่าว
นายนัยธาดา กล่าวอีกว่า การนำนวัตกรรมที่แปลกใหม่ทีสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพเป็นอย่างดีมาออกงานในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายในไตรมาส 4 ที่ตั้งเป้ายอดขาย 20 ล้านบาทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะงานบ้านและสวนแฟร์ 2559 จำนวน 9 วัน ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 12 ล้านบาท มีคนเข้ามาชมผลิตภัณฑ์ 1,600 คนต่อวัน ดูแล้วตัดสินใจซื้อทันทีคิดเป็น 16% อยู่ระหว่างรอการตัดสินใจคิดเป็น 34% และกลับมาซื้ออีกครั้งในโชว์รูมคิดเป็น 39% เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าปลีก ที่เป็นเจ้าของบ้านออกมาซื้อโดยตรง ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังมากกว่ายอดขาย คือ การทำให้คนรู้จักแบรนด์ ZEDERE (เซเดอร์เร่) มากขึ้นเท่านั้นเอง