อสังหาฯ ปีนี้ได้แรงหนุนจากดอกเบี้ยต่ำโครงการลงทุนภาครัฐ ห่วงราคาที่ดินพุ่งดันต้นทุนเพิ่ม ขาดแคลนแรงงาน มองผู้ประกอบการประคองตัวได้ คาดตลาดยังโตได้ 5% เตือนปีหน้าต้อระวังมากขึ้น
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและสถานีดิจิทัล NOW26 ร่วมกันจัดสัมมนา “เทรนด์…ลงทุนอสังหาฯ’59” โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นโยบายภาครัฐกับทิศทางอสังหาฯ” ระบุว่า จากคาดการณ์ของกระทรวงการคลังว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตในกรอบ 3-3.6% หรือเติบโตประมาณ 3.3% ซึ่งมีการลงทุนภาครัฐและเอกชนเป็นกลไกสำคัญ จะทำให้ภาคอสังหาริมรัพย์เติบโตประมาณ 5% โดยนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในปีที่ผ่านมา ทำให้มียอดโอนกรรมสิทธิ์เติบโตเพิ่มขึ้น 23% และจากนี้ไปเชื่อว่าผู้ประกอบการจะสามารถปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจสอดรับกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้
“โอกาสและความท้าทายของธุรกิจอสังหาฯ คืออัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมัน บวกกับอุปทานส่วนเกินบางส่วนจากปูนซีเมนต์ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี จะทำให้ความต้องการอสังหาฯ แนวชายแดนขยายตัว รวมทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ” นายวิสุทธิ์กล่าว
ด้านนายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ มาถึงจุดที่ภาพรวมอาจจะโตได้ไม่มาก แต่ผลประกอบการแต่ละบริษัทขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบาย ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการกลัวที่สุดคือ ราคาที่ดินสูงขึ้นมาก จากเดิมที่จะกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว การส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ และการลงทุนภาครัฐ มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ จึงแนะนำให้ผู้ซื้ออสังหาฯ ในที่ดินที่ชอบ เพราะราคาที่ดินมีแต่สูงขึ้น ปัจจุบันราคาที่ดินบางใหญ่เท่ากับลาดพร้าวแล้ว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ในฐานะยากสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้อสังหาฯ ปี 2559-60 เติบโตต่อเนื่องคือดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นเวลานาน บริษัทขนาดใหญ่สามารถออกหุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำ สามารถขยายการลงทุนได้ แต่หากดอกเบี้ยปรับขึ้นก็ต้องระวัง เพราะมีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมหาศาล
นายอธิป พีชานนท์ ในฐานะนายกสมาคมบ้านจัดสรร กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนแรกมีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นมาก โดยในกทม.-ปริมณฑล เพิ่มขึ้น 80% จากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ส่วนการเปิดโครงการใหม่ลดลง 13% ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอสังหาฯ โตคือ การแข่งขันปล่อยสินเชื่อของธนาคาร อัตราดอกเบี้ยต่ำ กำลังซื้อภายในประเทศยังมีอยู่ การเปิดเออีซีทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ การเร่งรัดโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ และนโยบายเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนปัจจัยลบคือ การขาดแคลนแรงงาน การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและผังเมืองรวมถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงต่อเนื่อง จากราคาที่ดินที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอาคารชุด
ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ปัจจัยหนุนของธุรกิจอสังหาฯ คือ อัตราดอกเบี้ย แม้จะมีโอกาสปรับขึ้นแต่ไม่มาก และยังมีปัจจัยบวกจากโครงข่ายคมนาคม ดังนั้น ธุรกิจปีนี้ยังโตได้ แต่ปีหน้าต้องระวังมากขึ้น