ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ กรรมการบริหารบริษัทในเครือของเอเคเอ็น กรุ๊ปและกรรมการผู้จัดการบริษัทเอส พี อาร์เอ็ม โมเดิร์น แมนแนจเม้นท์ จำกัด บริษัทให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารอาคารเปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนของการตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริหารอสังหาริมทรัพย์
จากข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างอาคารชุด และบ้านจัดสรรทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2551-ปัจจุบัน พบว่ามีการขออนุญาตรวมกันเกินกว่า 10,000 โครงการและจะเกิดการร่วมกลุ่มของประชาคมอาเซียน (AEC) ซึ่งมีการเปิดเสรีสินค้าบริการ เปิดเสรีเงินทุน และเปิดเสรีแรงงาน คาดว่าแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยต้องเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพและจุดแข็งที่โดดเด่น คือ ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรหลายรายการรายใหญ่ของโลก เป็นศูนย์กลางโครงข่ายเชื่อมโยงคมนาคมด้านต่างๆสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วถึงระบบธนาคารค่อนข้างเข้มแข็งแต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีจุดอ่อนแรงงานส่วนใหญ่ยังขาดทักษะทางด้านวิชาชีพเมื่อเปิดการค้าเสรีมากขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในด้านบวกและด้านลบ เมื่อวิเคราะห์ทางด้านบวก ได้แก่ความต้องการ
ด้านอสังหาริมทรัพย์มีปริมาณสูงขึ้น ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม อาคารชุด คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติในทางกลับกัน ผลกระทบทางด้านลบ เมื่อมีความต้องการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ราคาที่พักอาศัยก็ย่อมสูงขึ้น ตลาดการแข่งขันของผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมาสูงขึ้น เช่น ธุรกิจบริหารอาคาร อาคารชุด และ บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร นอกจากนี้หลายประเทศในกลุ่ม AECส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าไทย ดังนั้น แนวโน้มแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในเมืองไทยสูงขึ้นในอนาคตหากไม่มีนโยบายรองรับและขาดพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานอย่างเป็นระบบมาตรฐาน คาดว่าช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า แรงงานไทยอาจไม่พอเพียงต่อการบริหารจัดการดังกล่าวและอาจเป็นที่มาของการนำแรงงานจากต่างชาติเข้ามาอย่างแน่นอน
ดร.อัครนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทฯมีประสบการณ์ให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารอาคารทุกประเภท อาทิ อาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า หมู่บ้านจัดสรร มองเห็นว่าธุรกิจบริหารทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมา ประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรสายอาชีพและมีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงจำนวนมาก เพื่อรองรับการเติบโตอันรวดเร็วในวงการอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสูงทั้งประเภทอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เกิดขึ้นจำนวนมาก ในชุมชนเมืองใหญ่ๆ ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์โดยตรงที่ได้บรรจุเป็นหลักสูตรในการศึกษาภาครัฐยังมีน้อยมาก ส่วนหลักสูตรสายอาชีวศึกษายังมีการส่งเสริมหลักสูตรเกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างน้อยและขาดความชัดเจนในด้านการผลิตบุคลากรฝีมือแรงงานอาชีพด้านนี้เช่นกัน
นอกจากนี้หลักสูตรอบรมอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานต่างๆ โดยทั่วไป ยังไม่สามารถผลิตบุคลากรสายอาชีพด้านนี้เพียงพอและรองรับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วได้ ปัจจุบันยังคงประสบภาวะวิกฤตขาดแคลนบุคลากรสายอาชีพทั้งในส่วนอาคารสูงและบ้านจัดสรรที่มีคุณภาพจำนวนมาก ซึ่งเป็นอาชีพเฉพาะทางเกี่ยวข้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่มีตลาดมูลค่าหลายหมื่นล้าน ปัจจุบันบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการบริหารทรัพย์สิน มีแนวโน้มมีอัตราค่าจ้างแรงงานสูงขึ้นเช่น ผู้จัดการนิติบุคคล 30,000-80,000 บาท ผู้จัดการหมู่บ้านจัดสรร 30,000 เจ้าหน้าที่อาคาร 25,000หัวหน้าช่างเทคนิค28,000 ช่าง 20,000 นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ พนักงานบัญชี/การเงิน หัวหน้าวิศวกร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงานรักษาความสะอาด เป็นต้น โดยอัตราค่าจ้างเฉลี่ยขึ้นอยู่กับประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพ ถ้าเป็นโครงการบริหารอาคารของต่างชาติระดับไฮแอนด์ จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษอัตราค่าจ้างก็จะสูงขึ้นไปกว่านี้
ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้มองเล็งเห็นปัญหาการขาดแคลนบุคลากรสายอาชีพ และโครงการมักประสบปัญหาในการบริหารอาคารที่ดี และถูกต้อง ทำให้ผู้ลงทุนต้องประสบปัญหาอย่างมากจึงได้เปิดสถาบันพัฒนาการบริหารทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ สำหรับฝึกอบรมบุคลากรด้านบริหารทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ เป็นโครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรังสิตจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหารมืออาชีพ รุ่นที่ 1 ชื่อหลักสูตร“ผู้จัดการนิติบุคคล, ผู้จัดการอาคารชุด และหมู่บ้านจัดสรร”เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ศักยภาพของผู้ปฏิบัติในสายอาชีพนี้ หรือนักศึกษาทั่วไปที่สนใจด้านการบริหารทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์โดยผู้ผ่านการฝึกอบรมได้รับความรู้ ข้อมูล และแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตลาดของธุรกิจบริหารทรัพย์สินที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานได้รับความรู้ความเข้าใจข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาคารชุด และหมู่บ้านจัดสรรอย่างครบถ้วน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น (ระยะเวลา 3 วัน) จัดอบรมระยะสั้น รุ่นที่ 1 ในระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน 2559เวลา 9:00 – 16:00 น. ณ ศูนย์ศึกษาวิภาวดี มหาวิทยาลัยรังสิตติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ 087-783-2202 091-775-7831 0-2591-0126 หรือ ศูนย์บริการและวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิต 081-827-7396 เว็บไซต์ www.rsu.ac.thhttps://www.facebook.com/priminstitute