นายปราการ นกหงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทในเครือบริษัท แหลมทอง (LT Group) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้ ภาพรวมรายได้จากนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาท่องเที่ยวในภาคตะวันออก มีแนวโน้มลดลง 10% ทั้งในด้านการเข้ามาพักในโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ของบริษัทในเครือ รวมถึงการเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ภายในศูนย์การค้า เนื่องจากกลุ่ม นักท่องเที่ยว เปลี่ยนจากกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลาง มาเป็นกลุ่มเอเชียมากขึ้น ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมาเป็นหมู่คณะ โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็น ผู้จัดโปรแกรมนำเที่ยวและที่พัก ซึ่งมีการกำหนดไว้แล้ว ขณะที่ในด้านการใช้จ่ายของกลุ่มดังกล่าวก็ลดลง ทำให้รูปแบบศูนย์การค้าของบริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มครอบครัว คนไทยในท้องถิ่นมากขึ้น
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโครงการ “ฮาร์เบอร์ พัทยา” หรือศูนย์การค้ามหาสนุก ที่ถนนพัทยากลาง จ.ชลบุรี บนพื้นที่ 8 ไร่ รวมอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งได้เปิดเฟสแรกไปแล้ว ศูนย์การค้าแห่งนี้จะมีจุดเด่นที่ แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในพัทยา จากการเน้นสินค้าและบริการที่จับกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก เพราะมองว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่มีความแข็งแกร่งทางด้านนี้อย่างแท้จริง
“ในปีแรกเราคงอยากสื่อสารไปยังลูกค้าถึงความเป็นศูนย์การค้าของคนในครอบครัวก่อนเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทยที่คิดว่าอาจจะได้ประมาณ 70% ส่วนต่างชาติคงอยู่ที่ประมาณ 30% หรือมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยต่อวันที่ 1.5-2 หมื่นคน และในวันหยุดจะเพิ่มเป็น 3 หมื่นคนต่อวัน ส่วนแผนการนำแบรนด์ฮาร์เบอร์ไปขยายสาขามีอย่างแน่นอน ซึ่งคอนเซ็ปต์คงใกล้เคียงกันคือ แฟมิลี่ พาราไดซ์”นายปราการ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกจากศูนย์การค้าแล้ว ยังอยากสร้างแบรนด์ “บัลโคนี” ซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรมในเครือ ให้เติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนนั้นคงเน้นทางแถบศรีราชาเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังมีที่ดินอีก 1,000 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในจ.ชลบุรี แบ่งเป็นพัทยา 300-400 ไร่ และหนองปรือ 350 ไร่ ส่วนที่เหลือจะกระจายตัวอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาได้อีกหลายโครงการ บริษัทสนใจนำที่ดินที่หนองปรือมาสร้างโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในอีก 2 ปีข้างหน้า