เปิดบริการมาครบ 5 ปีพอดี สำหรับรถไฟฟ้า “แอร์พอร์ตลิงก์” (พญาไท-สุวรรณภูมิ) จากปี 2554 ถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารกว่า 5 หมื่นเที่ยวคน/วัน แต่ระหว่างทางมีปัญหาให้สะสางมาโดยตลอด
แต่คงไม่มีเหตุการณ์ไหนจะระทึกขวัญได้เท่ากับเหตุเกิด ณ วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 07.50 น. เมื่อขบวนรถขนผู้โดยสารกว่า 700 ชีวิต กำลังวิ่งจากสุวรรณภูมิมุ่งหน้าไปพญาไท จอดค้างอยู่บนรางระหว่าง“สถานีรามคำแหงและสถานีหัวหมาก” นานผิดปกติ จนทำให้ผู้โดยสารในรถมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต้องเปิดประตูฉุกเฉินหนีตายกันอลหม่านหลังขาดอากาศหายใจ
ไม่ว่าเหตุที่เกิดจะสุดวิสัยหรือด้วยอะไรก็ตาม คาดว่าน่าจะทำให้ผู้ใช้บริการเริ่มจะไม่เชื่อมั่นรถไฟฟ้าสายนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“พลเอกดรัณ ยุทธวงษ์สุข” รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากระบบเดินรถไฟฟ้าขัดข้องทั้งระบบ 30 นาที เพราะระบบจ่ายไฟที่สถานีรามคำแหงขัดข้อง ในช่วงเวลานั้นมีรถไฟฟ้า 1 ขบวนติดค้างอยู่กึ่งกลางสถานีหัวหมากและสถานีรามคำแหง ฝั่งไปพญาไท ที่เป็นจุดเชื่อมระบบไฟฟ้าพอดี จึงทำให้ไฟดับและรถหยุดวิ่ง ประกอบกับแบตเตอรี่ในรถหมดเพราะเปิดใช้งาน 30 นาที ทำให้พัดลมระบายอากาศไม่ทำงาน ซึ่งช่วงนั้นมีผู้โดยสารมาก ทำให้แย่งอากาศกันหายใจ
“การไฟฟ้าฯส่งกระแสไฟฟ้าให้ไม่เสถียร จึงทำให้ไฟดับ ระบบต่าง ๆ ภายในรถจึงใช้การไม่ได้ เช่น แอร์ ทำให้ผู้โดยสารไม่มีอากาศระบาย จึงเปิดประตูฉุกเฉินเพื่อออกจากรถ อีกทั้งเครื่องสำรองไฟที่ใช้เสื่อมสภาพเพราะใช้มา 5 ปี จึงไม่มีไฟฟ้าสำรองใช้ ขณะนี้กำลังขออนุมัติจากการรถไฟฯซื้อใหม่ วงเงิน 34 ล้านบาท และเตรียมจะหารือกับการไฟฟ้าฯเรื่องการจ่ายไฟเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก”
สำหรับการแก้ปัญหา ได้ดำเนินการตามมาตรการที่ฝึกซ้อม จะเคลื่อนย้ายผู้โดยสารไปยังอีกขบวนที่ส่งไปเสริม 2 ขบวน แต่มีผู้โดยสาร 20 คน เปิดประตูฉุกเฉิน ลงเดินยังทางเท้าข้างรางรถไฟไปยังสถานีรามคำแหง จึงต้องปิดกั้นเส้นทางไม่ให้รถไฟฟ้าผ่าน ทำให้รถเสริมที่มาช่วยไม่สามารถเดินรถได้ ต้องรอให้ผู้โดยสารที่ลงเดินขึ้นสถานีรถไฟรามคำแหงก่อน กว่าจะกลับมาใช้งานได้ใช้เวลานาน ส่วนการชดเชยผู้โดยสาร ได้คืนเงินและแจกคูปองเดินทาง 1 เที่ยวฟรี พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายผู้ที่ถูกส่งโรงพยาบาล
ถึงครั้งนี้จะเคลียร์ปัญหาได้ แต่ “แอร์พอร์ตลิงก์” ยังเผชิญปัญหาอีกเพียบรออยู่ข้างหน้า ไม่ว่ารถ 9 ขบวนที่ถึงคิวซ่อมใหญ่หลังครบ 2.4 ล้านกิโลเมตร การซื้อรถใหม่ 7 ขบวน 4-5 พันล้านบาท มารองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกปี ผ่านมาหลายปียังไม่มีท่าทีการรถไฟฯจะได้ฤกษ์ซื้อ หลังล้มประมูลซ้ำซาก
เห็นที “รัฐบาล คสช.” ต้องยกเครื่องการทำงานสไตลถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่งอีกสักรอบ เผื่ออะไร ๆ จะเร็วขึ้นมาบ้าง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ