ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง กลุ่มทุนรับเหมาจากจีนเดินหน้าลงทุนอสังหาฯ ในไทยต่อเนื่อง
นายกัว ไห่ ซิน กรรมการบริษัท ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง หรือซีทีซีซี เปิดเผยว่า บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2555เป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มนักลงทุนคนไทย คือ ครอบครัวอุชุปาละนันท์ และกลุ่มบริษัท ทีซีซี (ไชน่า เทียนเฉิน เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจในธุรกิจรับเหมาจากประเทศจีน ซึ่งหลังจากประเดิมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านอ่อนนุช ภายใต้ชื่อ อาทีมิส เป็นโครงการแรกในไทยไปแล้ว ยังคงสนใจลงทุนในไทยต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกของกลุ่มทีซีซีที่ออกมาลงทุนนอกประเทศจีน โดยมองว่าไทยมีศักยภาพในการลงทุนจากการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจะเปิดกว้างทุกรูปแบบทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก ในส่วนของธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาว คาดหวังอัตราผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 9% ต่อปี ส่วนพื้นที่การลงทุนหลักๆ ที่สนใจลงทุน คือ กรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสนใจร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่นในธุรกิจรับเหมา ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน และระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วย โดยในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัย หลังจากซื้อที่ดินกว่า 3 ไร่ย่านอ่อนนุชมาพัฒนาเป็นโครงการอาทีมิส เป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น จำนวน 673 ยูนิต และพื้นที่พาณิชย์ 3 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย26.58-74.11 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายประมาณ 7.9 หมื่นบาท/ตร.ม. หรือราคาขายเริ่มต้นที่กว่า 2.1 ล้านบาท/ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง และยังคงเน้นโครงการระดับกลางเป็นหลัก
สำหรับการทำตลาดให้กับโครงการอาทีมิส ส่วนหนึ่งจะนำไปโรดโชว์ที่จีนเจาะกลุ่มนักลงทุนชาวจีนที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเพื่อลงทุน ส่วนในไทยเองก็มีฐานลูกค้าคนจีนที่สนใจทั้งซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มคนจีนและชาวต่างชาติมีความสนใจซื้อแล้วประมาณ 10% จากกลุ่มลูกค้าที่สนใจทั้งหมด
ด้าน นางวรารักษ์ อุชุปาละนันท์ ประธานบริษัท ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง หรือซีทีซีซี กล่าวว่า กลุ่มครอบครัวอุชุปาละนันท์ มองเห็นโอกาสตลาดที่อยู่อาศัยในไทยที่ยังมีความต้องการสูง และกลุ่มบริษัท ทีซีซี จากประเทศจีน ก็มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งกำลังคนและเงินทุน จึงร่วมทุนกันภายใต้ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ฝั่งไทยถือหุ้น 51% และฝั่งทุนจีน 49% จากการเริ่มลงทุนเป็นโครงการแรก จึงใช้กลยุทธ์คอนโดสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
นายชนะ นันทจันทูล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทรับมอบหมายให้เป็นตัวแทนขายโครงการอาทีมิส สุขุมวิท 77 โดยนอกจากจะเน้นทำตลาดกับกลุ่มคนไทยแล้ว ยังเตรียมล็อกบางชั้น เช่น ชั้น 16-17 และชั้น 19-22 ประมาณ 60 ยูนิต เพื่อขายกลุ่มผู้ซื้อชาวจีนด้วย โดยความต้องการที่อยู่อาศัยย่านอ่อนนุชมีต่อเนื่อง เพราะราคายังไม่สูงมากอยู่ที่ประมาณ 8-9 หมื่นบาท/ตร.ม. ถ้าเทียบกับโครงการติดริมถนนจะขยับขึ้นไปแรงแล้วที่ 1.2 แสนบาท/ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันคนอยู่ย่านนี้จำนวนไม่น้อยที่เช่าคอนโดมิเนียมอยู่ เพราะซัพพลายใหม่ๆ เข้าสู่ย่านอ่อนนุชในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีน้อยมาก